นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตนได้ไปร่วมงาน Cocktail Reception ซึ่งจัดโดย สมาคมการค้าไทย-ยุโรป (TEBA) เนื่องในโอกาสการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พ.ศ. 2568 (Annual General Meeting: AGM) ซึ่งเป็นการหารือ แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และแนวทางการกระชับความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและบริษัทในเครือทวีปยุโรป
สำหรับสมาคมการค้าไทย-ยุโรป มุ่งมั่นในการสนับสนุนธุรกิจยุโรปให้เข้าถึงตลาดในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนที่แข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังสนับสนุนข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป (Thai-EU Free Trade Agreement: FTA) ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ซึ่งจะไม่เพียงช่วยลดภาษีและอุปสรรคทางการค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการยุโรปในประเทศไทย ที่นับวันจะมีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้น อันจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการผลิตในอุตสาหกรรมท้องถิ่น ส่งเสริมการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและการจ้างงาน พร้อมทั้งยกระดับและขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ
นอกจากนี้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะต้องควบคู่กับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและลดการปล่อยคาร์บอนต่อโลก ซึ่งประเทศไทยให้ความสำคัญในการต่อสู้กับเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างมาก เพื่อการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน และที่ผ่านมา สมาคมการค้าไทย-ยุโรป มีการส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศไทยในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสนับสนุนการลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยีสีเขียว รวมถึงภาคพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม
ทั้งนี้สมาคมการค้าไทย-ยุโรป ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2552 โดยเป็นสมาคมธุรกิจการผลิตและบริการเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบด้วยบริษัทชั้นนำของยุโรปและนักลงทุนจากภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์, การบินและอวกาศ, และบริการ ภารกิจหลักของสมาคมการค้าไทย-ยุโรป คือ การส่งเสริมโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างยุโรปและไทย ในขณะเดียวกันมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย และช่วยเหลือธุรกิจไทยและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการแข่งขันในห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคและระดับโลกอีกด้วย
นายเอกนัฏ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเดินหน้าปฏิรูปอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง เพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาฐานอุตสาหกรรมให้ ยืดหยุ่น มีนวัตกรรม และยั่งยืน โดยรัฐบาลมุ่งยกระดับมาตรฐานและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบให้โปร่งใสและง่ายขึ้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ รัฐบาลกำลังจัดการกับปัญหา อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ สินค้าด้อยคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ขายในตลาดทั่วไปและสินค้าออนไลน์ รวมทั้งปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนให้คล่องตัวและโปร่งใสยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น AI และเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อสร้างแรงงานที่มีคุณภาพ ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่ พลังงานสะอาด เช่น พลังงานชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์และลม โดยมีเป้าหมาย ลดการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิล และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 ทั้งนี้รัฐบาลได้มอบสิทธิประโยชน์มีเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี