นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุม ร่วมด้วยนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเจษฎา ถาวรศักดิ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
โดยการประชุมดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางและนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นให้การส่งเสริม พัฒนาผลิตผลของสมุนไพรไทยให้มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ (Care and Wellness Economy) และบริการทางการแพทย์ (Medical Hub) ที่จะยกระดับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยก้าวสู่เศรษฐกิจสุขภาพและการแพทย์ โดยการนำเอานวัตกรรมมาใช้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งในปี พ.ศ. 2567 ประเทศไทยมีมูลค่าค้าปลีกสมุนไพรกว่า 44,700 ล้านบาท นับเป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและสืบทอดโดยผ่านกระบวนการเรียนรู้และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมฯ กล่าวว่า ได้เสนอเรื่องเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาแอลกอฮอล์ เพื่อสนับสนุนการแปรรูปสมุนไพร โดยมีกลไกการแก้ปัญหาแบบถาวร ด้วยการกำหนดนิยามของเภสัชเคมีภัณฑ์ในการเตรียมสารสกัดและยา ยกร่างกฎหมายของตัวทำละลายสารสกัดสมุนไพร เพื่อให้แอลกอฮอล์เภสัชเคมีภัณฑ์อยู่ภายใต้กำกับดูแลของ พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510 และมีกลไกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการสนับสนุนเงินทุน ผ่านโครงการสนับสนุนเงินอุดหนุนสำหรับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้ตัวทำละลายสารสกัดสมุนไพร
ทั้งนี้ได้เสนอให้ที่ประชุมฯ พิจารณาเกี่ยวกับแนวทางในการนำแอลกอฮอล์ไปผลิตในอุตสาหกรรมอื่น ตามมติคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนสีเขียว (Bio – Circular – Green Economy : BCG Model) ซึ่งรัฐบาลต้องการเร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ อุตสาหกรรมสมุนไพร อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด รวมถึงอุตสาหกรรม S-Curve ด้วยการอนุญาตให้นำเอทานอลไปใช้ในอุตสาหกรรมได้ในระยะแรก และหลังจากนั้นจึงพิจารณาส่งเสริมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพและอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพในระยะต่อไป
นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ยังได้ร่วมกันพิจารณาเกี่ยวกับแผนการขับเคลื่อนสมุนไพร Herb of the year ได้แก่ ไพล กระชายดำ และกระท่อม รายงานความก้าวหน้าแผนงานบูรณาการนำสมุนไพรสู่การสร้างเศรษฐกิจ แผนการส่งเสริมสมุนไพรในตลาดต่างประเทศ และแผนการดำเนินการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมด้านสมุนไพรไทย อีกด้วย
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี