นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 5/2568 มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่กระทรวงพลังงาน ว่า นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ว่า ได้เรียนภารกิจกระทรวงพลังงานต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมรายงานสถานการณ์พลังงานในปัจจุบันที่กำลังเกิดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยกระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าไทยมีความพร้อมในการดูแลความมั่นคงทางพลังงาน โดยพลังงานได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และมีสำรองน้ำมันสามารถดูแลให้เพียงพอได้ถึง 60 วันกรณีความขัดแย้งรุนแรงจนกระทบต่อการนำเข้าน้ำมัน ผู้ค้ามาตรา 7 พร้อมร่วมมือ นอกจากนี้ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ได้ตอบรับเข้าดูแลแล้ว
"นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ดูแลประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบ พร้อมสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยให้แรงงานไทยทั้ง2ประเทศ"นายประเสริฐกล่าว
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันขายปลีกทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซล กระทรวงพลังงานพลังงานมีเครื่องมือหลักคือ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุดได้ปรับลดการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลลง เพื่อตรึงราคา โดยปัจจุบันกระทรวงมีนโยบายดูแลดีเซลไม่ให้เกิน 32 บาทต่อลิตร และกลุ่มเบนซินแก๊สโซฮอล์เหมาะสม ปัจจุบันอยู่ที่ 32 บาทต่อลิตรเช่นกัน ทั้งนี้กองทุนฯตั้งเป้าหมายดูแลน้ำมันดิบได้อีก 5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจุบัน 75 เหรียญสหรัฐ หากถึง 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล กระทรวงพลังงานจะขอให้กระทรวงการคลังใช้มาตรการภาษีสรรสามิตเข้าดูแล โดยอาจใช้วิธีลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
"กรณีกองทุนรับไมไหว ได้แจ้งขอความร่วมมือจากกระทรวงการคลัง ซึ่งกระทรวงการคลังได้ตอบรับพร้อมช่วยเหลือประชาชนแล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าสถานการณ์ราคาจะไม่รุนแรงเหมือนในอดีต แต่เราก็ต้องเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ หากสุดท้ายรุนแรงก็อาจต้องขึ้นราคาบางส่วน"นายประเสริฐกล่าว
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานก็ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยในยามที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีราคาสูง และบริหารจัดการจนสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากมีหนี้กว่า 120,000 ล้านบาทในปีที่แล้ว จนปัจจุบันเหลืออยู่ที่ประมาณ 36,200 ล้านบาท รวมทั้งยังมีการตรึงราคาก๊าซหุงต้มหรือ LPG และ NGV ซึ่งเป็นต้นทุนในการประกอบอาชีพของประชาชน
นอกจากนี้ได้รายงานสถานการณ์ด้านพลังงาน ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีการนำเข้าและมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยมีการนำเข้าน้ำมันดิบมากกว่า 93% เมื่อเทียบกับความต้องการใช้ภายในประเทศ และมีการใช้ไฟฟ้า 2.1 แสนล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้นกว่า 5% และความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือ Peak อยู่ที่ 36,792 เมกะวัตต์หรือเพิ่มขึ้นถึง 5% นอกจากนั้น ในส่วนของภารกิจสำคัญของกระทรวงพลังงาน ได้นำเสนอการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ทั้งการบริหารจัดการเพื่อลดค่าไฟฟ้า ซึ่งตลอดปี 2567 จนถึงปัจจุบัน อัตราค่าไฟฟ้าก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง
นายประเสริฐ กล่าวว่า ทั้งนี้กระทรวงพลังงาน ยังได้เร่งขับเคลื่อน “เศรษฐกิจสีเขียว” ด้านพลังงานที่ครอบคลุมทั้งการใช้และการจัดหา โดยในด้านการใช้ ได้เริ่มต้นการส่งเสริมการลดการใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งทำให้ปีที่ผ่านมา สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้มากกว่า 110 ล้านหน่วย และลดการใช้น้ำมันได้กว่า 4 ล้านลิตร การส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เตาชีวมวล ส่วนในด้านการจัดหา ได้เร่งพัฒนากฎหมาย กฎระเบียบ มาตรฐาน และลดขั้นตอนการขออนุญาตเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและเอกชน สามารถเข้าถึงและให้เกิดการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Rooftop รวมทั้งการเปิดประมูลสัมปทานขุดเจาะแหล่งปิโตรเลียมทั้งพื้นที่บนบกและในทะเล และการพิจารณาความเป็นไปได้ของการจัดหา LNG จากแหล่งอะแลสกา ซึ่งเป็นแหล่งทางเลือกที่มีศักยภาพและอาจช่วยลดต้นทุนการจัดหา LNG ของประเทศได้
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี