นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพ.ค.68 มีทั้งสิ้น 139,186 คัน เพิ่มขึ้น 33.51% จากเดือน เม.ย.68 และเพิ่มขึ้น 10.32 %จากเดือน พ.ค.67 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในรอบ 21 เดือน เนื่องจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV และ PHEV เพิ่มขึ้น 641.16% และ 130.49% ตามลำดับ ส่งผลให้การผลิตรถยนต์นั่งเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้น 63.88% รวมทั้งผลิตรถ PPV เพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้น 138.65% ส่งผลให้ 5 เดือนแรกปีนี้ ( ม.ค.-พ.ค.68) มีจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งสิ้น 594,492 คัน ลดลง 7.82% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้การผลิตเพื่อส่งออกในเดือน พ.ค.68 ผลิตได้ 87,297 คัน เท่ากับ 62.72% ของยอดการผลิตทั้งหมด ส่งผลให้ 5 เดือนแรกปีนี้ผลิตเพื่อส่งออกได้ 390,095 คัน เท่ากับ 65.62% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 10.20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือน พ.ค.67 ผลิตได้ 51,889 คัน เท่ากับ 35.65% ของยอดการผลิตทั้งหมด ส่งผลให้ 5 เดือนแรกปีนี้ผลิตได้ 204,397 คัน เท่ากับ 37.28% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 2.91% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ด้านของยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤษภาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 10.67% จากเดือนเม.ย. 68 แต่เพิ่มขึ้น 4.73% จากเดือน พ.ค.67 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ต่อจากเดือนเมษายน 2568 จากการขายรถยนต์ไฟฟ้า BEV PHEV และรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในเพิ่มขึ้น 118.64%, 234.68% และ 3.19% ตามลำดับจากราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ส่งผลให้ 5 เดือนแรกของปีนี้ รถยนต์มียอดขาย 252,615 คัน ลดลง 2.98% จากชาวงเดียวกันปีก่อน
อย่างไรก็ดีในส่วนของยอดขายรถกระบะยังคงลดลง 24.84% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่ยังอ่อนแอจากการลงทุนภาคเอกชนที่ยังต่ำรวมทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้น อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงจากนักท่องเที่ยวจีนที่กังวลเรื่องความปลอดภัย กังวลเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่จะไม่ได้ใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้จากปัญหาการเมืองที่ขัดแย้งกันซึ่งจะซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศที่ทรุดอยู่แล้วทรุดลงมากขึ้นไปอีก
“ขณะที่โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ทางกระทรวงการคลังจะเข้า ครม. คาดว่าน่าจะทำให้ยอดขายในประเทศดีขึ้น ปัจจุบันรถเก่าอายุ 20 ปี ในระบบมีประมาณ 2 ล้านคัน มีโอกาสเกิดขึ้นได้ อยู่ที่ว่าจะลดภาษีรุ่นไหนแลกอะไร ขณะเดียวกันรัฐต้องคุยกับสถาบันการเงิน – ไฟแนนซ์เพื่อให้ปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น”นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะที่รถยนต์สำเร็จรูป เดือนพ.ค. 68 ส่งออกได้ 81,071 คัน เพิ่มขึ้น 23.34%จากเดือน เม.ย.68 แต่ลดลง 9.20% จากพ.ค.67 สาหตุของการลดลง เนื่องจากการหยุดผลิตรถยนต์นั่งบางรุ่นที่เลิกส่งออกไปสหรัฐอเมริกาและยุโรปจากการเข้มงวดเรื่องอุปกรณ์ช่วยเหลือในการขับ จึงไม่มีรถยนต์นั่งส่งออกไปในตลาดยุโรป แต่ส่งออกรถกระบะเพิ่มขึ้นตามจำนวนการผลิตรถกระบะส่งออกมากขึ้นในเดือนพฤษภา และส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางด้วย รถยนต์ HEV ยังส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.48 การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยังคงมีความไม่แน่นอนทั้งภาษีนำเข้าของอเมริกา ความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัวลง
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพฤษภาคม 2568
ขณะที่เดือน พ.ค. มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 13,935 คัน เพิ่มขึ้น 70.65% จาก พ.ค.ปี 67 โดย 5 เดือนแรกของปีนี้มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 53,955 คัน เพิ่มขึ้น 22.85% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนประเภท HEV 60,793 คัน เพิ่มขึ้น 2.49% ประเภท PHEV 9,822 คัน เพิ่มขึ้น 142.34% ทั้งนี้ใน 5 เดือนแรกของปีนี้มีผลิต EV ได้สูงสุดเพราะค่ายรถยนต์เร่งผลิตชดเชยตามมาตรการที่ EV3.0 และ 3.5 ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเห็น EV ผลิตถึง 50,000 คัน
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี