นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ทำให้เหลือ 1.50% ล่าสุดนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือว่าเป็นการพิจารณาตามสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม โดยเชื่อว่าการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคธุรกิจ และผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยลดภาระทางด้านต้นทุนทางด้านการเงินให้กับผู้กู้ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs)

“ ที่ผ่านมา SMES ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีสหรัฐฯ และเงินบาทที่แข็งค่ากว่าสกุลเงินในภูมิภาค ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ครั้งนี้ทางภาคเอกชนขอขอบคุณ กนง. ที่ช่วยพิจารณาลดดอกเบี้ยตามสภาพเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม  โดยการตัดสินใจของ กนง. ในวันนี้จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจกำหนดทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 68 ท่ามกลางความท้าทายจากภายนอกและภายในประเทศ” นายเกรียงไกรกล่าว

นานเกรียงไกร กล่าวว่า ภาคเอกชนยังกังวลเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยหวังให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) ออกมาตรการควบคุมค่าเงินควบคู่ไปกับนโยบายดอกเบี้ย ซึ่ง กนง. เองย้ำมาโดยตลอดว่าต้องรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงิน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต

“อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนส่งสัญญาณมาตลอดว่าหากการออกมาตรการล่าช้าเกินไป อาจไม่ทันการณ์ เนื่องจากมาตรการที่ออกจะส่งผลของดอกเบี้ยนโยบายสู่ตลาดต้องใช้เวลาหลายเดือน”นายเกรียงไกรกล่าว

- 030