นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมงาน"UNESCO x SACIT x ICONCRAFT: A Celebration of Thai Artisans and Creative Cities" เชิดชูช่างฝีมือไทย ยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นจาก 7 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์ ที่เป็นต้นแบบมรดกแห่งวัฒนธรรมและช่างฝีมือไทย สู่ผลงานหัตถศิลป์ร่วมสมัยจากการสร้างสรรค์โดยแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ 14 สุดยอดดีไซเนอร์ไทย
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ โดยมี Ms. Audrey Azoulay ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย หรือ SACIT และคุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้ก่อตั้ง ICONCRAFT
โดยการลงนามเพื่อเป็นการแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ร่วมกันในการสนับสนุนผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ของไทย เป็นผู้นำและบุคลากรด้านวัฒนธรรมที่มีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมช่างฝีมือจาก 7 จังหวัดในโครงการ "เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก" (UNESCO Creative Cities Network: UCCN)
ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แคมเปญ “UNESCO x SACIT x ICONCRAFT: A Celebration of Thai Artisans and Creative Cities” เป็นการเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นจาก 7 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์ในประเทศไทย เข้ากับงานหัตถศิลป์ของไทยผ่าน 14 ดีไซเนอร์ชั้นนำ โดยแบ่งเป็น 7 ดีไซเนอร์ที่เป็นผู้สืบสานภูมิปัญญาไทยภายใต้การสนับสนุนของสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT และอีก 7 ดีไซเนอร์แถวหน้าของประเทศ ที่ ICONCRAFT ได้เชิญมาร่วมออกแบบคอลเลคชันพิเศษ รวมเป็น 14 ชุดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งเผยโฉมให้ได้ชมเป็นครั้งแรกในงาน Crafts Bangkok 2025 เมื่อวันที่ 18 - 22 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กิจกรรมภายในงาน ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา องค์ดีไซเนอร์ของแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” กับผลงานการออกแบบกระเป๋าคลัตช์ 2 ใบอันทรงคุณค่าโดยแบรนด์ SIRIVANNAVARI ภายใต้วิสัยทัศน์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่วิจิตรงดงามด้วยงานปักอันประณีตโดยทีมช่างผู้ชำนาญแห่ง SIRIVANNAVARI Atelier & Academy ด้วยงานปักลายนกยูงสีทองอันเปล่งประกาย และการปักลวดลายล้อไปกับลายผ้าทอ ดุจงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก เป็นผลงานของ วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ครูศิลป์ของแผ่นดินปี 2554 ของ SACIT บรมครูผ้าไหมไทยผู้ก่อตั้งแบรนด์ “จันทร์โสมา” ของจังหวัดสุรินทร์
ทั้งนี้ได้มีการเปิดประมูลกระเป๋าคลัตช์ผ้าไหมที่ทรงออกแบบทั้งสองใบ เพื่อระดมทุนให้โครงการ UNESCO Youth Program เพื่อส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ให้กับเยาวชนใน 7 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์ของไทย ซึ่งปัจจุบันมีเมืองสร้างสรรค์อยู่กว่า 350 เมืองทั่วโลกโดยประเทศไทยได้รับเลือกรวม 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต, เชียงใหม่, กรุงเทพฯ, สุโขทัย, เพชรบุรี, เชียงราย และ สุพรรณบุรี
อีกหนึ่งความพิเศษของงาน คือ นิทรรศการฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยมใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 8 ชุด ซึ่งเป็นการจัดแสดงครั้งแรกในประเทศไทย อาทิ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา, ชุดไทยอัมรินทร์ ซึ่งเป็นฉลองพระองค์ในพระราชพิธีหรือโอกาสอันเป็นทางการ และแฝงไปด้วยความหมายทางประวัติศาสตร์
ด้วยพระปณิธานในการธำรงรักษาและยกระดับมรดกภูมิปัญญาไทยสู่เวทีโลก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นพลังสำคัญในการเผยแพร่คุณค่าของ “ผ้าไทย” ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ จึงทรงริเริ่มโครงการต่างๆ อาทิ “โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” โดยมุ่งหวังให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของผ้าไทยในฐานะแฟชั่นที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน พัฒนาองค์ความรู้ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้ช่างทอผ้า ช่างหัตถศิลป์ และชุมชน และสร้างแรงบันดาลใจในการนำผ้าไทยมาต่อยอดเชิงสร้างสรรค์
ผู้ที่สนใจสามารถร่วมเชิดชูภูมิปัญญาไทยและชื่นชมความสร้างสรรค์ของเหล่าช่างฝีมือและนักออกแบบไทย พร้อมชมนิทรรศการชุดไทยพระราชนิยมฉลองพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ตั้งแต่วันนี้ - 29 มิถุนายน 2568 ณ ICONLUXE AVENUE,
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี