ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับภาคเกษตรกรรมไทย สู่ยุคเกษตรสมัยใหม่ ล่าสุดได้นำคณะเกษตรกรหัวขบวนจากชุมชนที่ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทต่างๆ ของไทย 10 ชุมชน ไปดูงาน “เกษตรก้าวหน้า” ณ มณฑลซินเจียง ประเทศจีน โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรนำองค์ความรู้ที่ได้ไปต่อยอดพัฒนาชุมชน

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า การศึกษาดูงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับเกษตรกรไทย โดยคณะได้เข้าเยี่ยมชม อุทยานนิทรรศการเกษตรกรรมซินเจียง ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีวิจัยด้านการเกษตรที่สำคัญของจีน ที่นี่เกษตรกรได้สัมผัสกับเทคโนโลยี Vertical Farming (การปลูกพืชแนวตั้ง) ในโรงงานระบบปิด ซึ่งควบคุมสภาพแวดล้อมด้วยระบบอัจฉริยะ ทั้งแสง อุณหภูมิ ความชื้น รวมถึงระดับออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมี AI คอยตรวจสอบความผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคการปลูกไม้ดอกควบคู่ผักเพื่อเพิ่มออกซิเจน และใช้กับดักแมลงแบบกาวเหนียวสองสี รวมถึงเทคโนโลยีสายพานในการเพาะกล้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างเป็นรูปธรรม

คณะเกษตรกรยังได้เดินทางไปเยี่ยมชม ฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ Xinjiang Tianrun Dairy Co., Ltd. ซึ่งเป็นฟาร์มที่เลี้ยงโคนมมากถึง 2 ล้านตัว และใช้เทคโนโลยีจากสวีเดนในการควบคุมกระบวนการผลิตน้ำนมให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย ที่น่าสนใจคือฟาร์มแห่งนี้ยังเปิดเป็นเส้นทางเรียนรู้สำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ทำให้ได้เห็นกระบวนการผลิตน้ำนมได้

นอกจากนี้ ยังมีโมเดลที่น่าสนใจคือ ฐานปลูกหนานซาน (Xiangzhiyuan Nanshan) ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลจีนลงทุนสร้างโรงเรือนมาตรฐาน 100 หลัง เพื่อให้ประชาชนเช่าในราคาปีละ 10,000 หยวนต่อโรงเรือน (ประมาณ 50,000 บาท) และสร้างรายได้เฉลี่ยสูงถึง 500,000–1,000,000 บาทต่อโรงเรือน ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยลดภาระการลงทุนเริ่มต้นให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

นายฉัตรชัย กล่าวเสริมว่า การได้ลงพื้นที่จริงทำให้เกษตรกรได้เห็นนวัตกรรมที่สามารถนำมาปรับใช้ในชุมชนไทยได้ทันที เช่น การห่อผลฝรั่งแบบปลอดแมลง การดักแมลงโดยไม่ใช้สารเคมี และการควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนด้วยโซลาร์เซลล์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสามารถผลิตเพื่อรองรับตลาดเฉพาะกลุ่มได้

ธ.ก.ส. คาดหวังว่าเกษตรกรหัวขบวนจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับกลับไปพัฒนา ชักจูงสมาชิกในกลุ่ม และร่วมกันยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับครัวเรือนและชุมชน เกิดการรวมกลุ่มอย่างเข้มแข็งในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตร และต่อยอดสู่การผลิตสินค้าสำเร็จรูปที่สร้างรายได้สูงขึ้นอย่างยั่งยืน

นายฉัตรชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนคลังความรู้ภาคเกษตรผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร ซึ่งรวบรวมองค์ความรู้ด้านการเกษตรสมัยใหม่ที่หลากหลาย เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ได้จริง เช่น การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์กลม, การใช้ปุ๋ยอินทรีย์, การทำน้ำหมัก, และการปรับปรุงดินให้มีแร่ธาตุเพียงพอ

ความรู้เหล่านี้จะช่วยยกระดับการเกษตรสมัยใหม่ โดย ธ.ก.ส. จะเน้นการให้ความรู้แก่เกษตรกรยุคใหม่ เพื่อให้เข้าใจมากกว่าแค่การใส่ปุ๋ยและเลือกพันธุ์พืช แต่ยังรวมถึง โลจิสติกส์ การปรับปรุงคุณภาพ และการตลาด ซึ่งต้องอาศัยคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยยกระดับการเกษตรให้เป็นเกษตรเชิงพาณิชย์ แม้ตลาดของ ธ.ก.ส. จะเปิดกว้าง แต่คนรุ่นใหม่ต้องเป็นฝ่ายเข้าถึงตลาดเหล่านี้

ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส. ยังสนับสนุนเกษตรกรด้วยการผลักดัน สินเชื่อ Smart Tech ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าปกติ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้กับการเกษตรแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นให้เกษตรกรเปลี่ยนจากการผลิตวัตถุดิบไปสู่การ แปรรูปเป็นสินค้าสำเร็จรูป ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สามารถกำหนดราคาขายได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพิงตลาดกลางอีกต่อไป