กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยกทัพผู้ประกอบการไทยด้านสุขภาพและความงามกว่า 30 ราย โชว์นวัตกรรมและบริการสุดล้ำในงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2568 ณ ฮอลล์ 101 ไบเทค บางนา พร้อมเปิดพื้นที่ DBD Pavilion 5 โซน ได้แก่ สปา, Beauty & Clinic, CARE, Nutrition และ Wellness Hotel ช่วยผู้ประกอบการมีพื้นที่เจรจาธุรกิจ ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสและทดลองสินค้า คาดว่างานนี้จะช่วยเสริมแกร่งให้ SME ไทยมุ่งสู่ศูนย์กลาง Wellness Hub แห่งเอเชีย นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มอบรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านการดูแลและบริการผู้สูงอายุปี 2568 ให้กับ 30 ธุรกิจไทยเพื่อยกย่องและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรายอื่นต่อไป

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้หม่อมหลวง ภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นประธานเปิดงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 (วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2568) ณ ฮอลล์ 101 ไบเทค บางนา งานนี้จัดขึ้นโดยบริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 26–29 มิถุนายน 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสนับสนุนและสร้างโอกาสธุรกิจให้ผู้ประกอบการ SME ในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงามให้เติบโตแข็งแกร่ง สอดรับนโยบายรัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลาง Wellness & Medical Hub แห่งภูมิภาค     

นางอรมน กล่าวว่า กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ ในธุรกิจสุขภาพและความงามที่มีศักยภาพจำนวน 30 ราย เข้าร่วมงานฯ พร้อมจัดแสดงสินค้าและบริการในพื้นที่ DBD Pavilion ประกอบด้วย 5 โซน ได้แก่ 1) สปา 2) Beauty & Clinic 3) CARE 4) Nutrition และ 5) Wellness Hotel โดยมีกิจกรรมสุดพิเศษที่น่าสนใจ เช่น สาธิตบริการสปา การทำดีท็อกซ์ รีทรีท แว๊กซ์คิ้ว บริการตรวจสุขภาพ และให้คำปรึกษาฟรี พร้อมโปรโมชันอาหารเสริมลดสูงสุดกว่า 50% สำหรับผู้เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ ขอเชิญผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมบูธ DBD Wellness (บูธ B1) เพื่อทดลองใช้บริการ หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพ และเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการ Wellness ได้โดยตรงตลอดทั้ง 4 วันของการจัดงาน

อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานในปีนี้คือ พิธีมอบรางวัล ‘สถานประกอบการดีเด่นด้านการดูแลและบริการผู้สูงอายุ ประจำปี 2568’ ซึ่งกรมฯ ร่วมมือกับสมาคมการค้าและบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อเชิดชูผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นพัฒนามาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุให้เป็นเลิศ ทั้งด้านคุณภาพบริการ นวัตกรรม การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และมีบทบาทเชิงรุกในการสร้างคุณค่าและแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ   โดยปีนี้มีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน 30 แห่ง จาก 63 แห่งที่ส่งเข้าร่วมประกวด โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทรางวัล ได้แก่ 1) รางวัลความเป็นเลิศด้านคุณภาพการบริการ (Excellence in Service Quality Award)  จำนวน 24 แห่ง 2) รางวัลความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุ (Innovation for Elderly Care Award) จำนวน 2 แห่ง และ 3) รางวัลผู้นำสร้างคุณค่าและประโยชน์ต่อสังคมผู้สูงอายุ (Social Impact Leadership Award) จำนวน 4 แห่ง ทั้งนี้ สามารถดูรายชื่อธุรกิจดูแลผู้สูงอายุได้ที่ Facebook: สมาคมการค้าและการบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญกับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพและมาตรฐานการบริหารจัดการให้เกิดความเข้มแข็ง มีธรรมาภิบาล และสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจได้จริง พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้มีความสุขในทุกมิติ อีกทั้ง รูปแบบครอบครัวยุคใหม่ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและสุขภาวะของผู้สูงอายุมากขึ้น ขณะที่ภาครัฐก็มีนโยบายส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุของไทยกลายเป็นหนึ่งในภาคบริการที่มีศักยภาพสูง และพร้อมตอบสนองความต้องการของสังคมสูงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2568) พบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจดูแลผู้สูงอายุจดทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 803 ราย คิดเป็นทุนจดทะเบียนรวมกว่า 4,300 ล้านบาท และมีรายได้รวมกว่า 1,294 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากแนวโน้มโครงสร้างประชากรที่ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ตลอดจนการปรับตัวของผู้ประกอบการในการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน กลุ่มโรงแรม และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับบน ซึ่งเริ่มให้ความสนใจเข้ามาในธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ดังนั้น การพาผู้ประกอบการเข้าร่วมงานในครั้งนี้จะเป็นกลไกสำคัญที่เปิดเวทีให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงศักยภาพ พร้อมเปิดโอกาสให้พบปะผู้บริโภคโดยตรง และสามารถขยายตลาดทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากลได้อย่างเป็นรูปธรรม

-031