วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
จับตาส่งออกสินค้าประมง หลังจีนยกเลิกแบนอาหารทะเลญี่ปุ่น

จับตาส่งออกสินค้าประมง หลังจีนยกเลิกแบนอาหารทะเลญี่ปุ่น

วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 11.28 น.
Tag : กระทรวงพาณิชย์ สนค. สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า สินค้าประมง อาหารทะเล
  •  

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ติดตามสถานการณ์การค้าสินค้าประมงไทยที่สร้างรายได้จากการส่งออกไปทั่วโลก ในปีที่ผ่านมาสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 54,000 ล้านบาท แนะผู้ประกอบการไทยจับตาใกล้ชิด หลังจีนเตรียมยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่น

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การค้าสินค้าประมง (พิกัดศุลกากร 03) พบว่า
เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2568 ญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงกับจีน โดยคาดว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะสามารถส่งออกไปตลาดจีนได้อีกครั้ง หลังจากจีนห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นเป็นเวลาเกือบ 2 ปี (นับตั้งแต่ปี 2565) โดยญี่ปุ่นต้องขึ้นทะเบียนโรงงานแปรรูปอาหารทะเลกับทางการจีน และสินค้าที่ส่งออกต้องมีใบรับรองเพื่อยืนยันว่าไม่มีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี โดยในปี 2565 จีนนำเข้าสินค้าประมงจากญี่ปุ่นเป็นอันดับที่ 10 (มูลค่า 506.8 ล้านเหรียญสหรัฐ สัดส่วน 2.7% ของมูลค่าการนำเข้าของจีน) สำหรับสินค้าประมงที่จีนนำเข้าจากญี่ปุ่นมาก เช่น หอยสแกลลอป และปลา เป็นต้น


ทั้งนี้ข้อมูลการค้าสินค้าประมง จาก Trademap.org พบว่า ในปี 2567 การส่งออกสินค้าประมงของโลก มีมูลค่า 136,804.03 ล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.นอร์เวย์ (สัดส่วน 11.3% ของมูลค่าการส่งออกของโลก) 2.จีน (7.6%) 3.เอกวาดอร์ (5.4%) 4.ชิลี (5.3%) และ 5.อินเดีย (4.5%) ขณะที่ไทยส่งออกเป็นอันดับ 24 ของโลก (1.1%) สำหรับประเทศที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา (สัดส่วน 15.3% ของมูลค่าการนำเข้าของโลก) 2.จีน (13%) 3.ญี่ปุ่น (6.9%) 4.สเปน (5.4%) และ 5.อิตาลี (4.7%) ขณะที่ไทยนำเข้าเป็นอันดับ 10 ของโลก (2.5%)

จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก มีสัดส่วน 13% ของมูลค่าการนำเข้าของโลก ในปี 2567 จีนนำเข้าสินค้าประมง 17,885.61 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่นำเข้าจากเอกวาดอร์ (17.4% ของมูลค่าการนำเข้าของจีน) รัสเซีย (15.3%) แคนาดา (7.0%) เวียดนาม (6.6%) และอินเดีย (6.4%) โดยนำเข้าจากไทยเป็นอันดับที่ 11 (2.1%) คิดเป็นมูลค่า 380.96 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับการค้าสินค้าประมงของไทย ในปี 2567 ไทยส่งออกเป็นมูลค่า 1,544.96 ล้านเหรียญสหรัฐ (54,171.21 ล้านบาท) ขยายตัว 1.29% จากปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.จีน (23.5% ของมูลค่าการส่งออกของไทย) 2.ญี่ปุ่น (18.9%) 3.สหรัฐฯ (14.2%) 4.เกาหลีใต้ (5.6%) และ 5.อิตาลี (5.5%) โดยการส่งออกสินค้าประมงจากไทยไปจีน มีมูลค่า 363.49 ล้านเหรียญสหรัฐ (12,717.60 ล้านบาท) หดตัว 2.1% จากปีก่อนหน้า สินค้าสำคัญที่ส่งออกไปจีน 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.กุ้ง (68.9% ของมูลค่าการส่งออกไปจีน) 2.สัตว์น้ำเปลือกแข็ง และโมลลุสก์ อื่นๆ (14.3%) 3.ปลา (10.7%) 4.หมึก (4.2%) และ 5.แมงกะพรุน (1.5%)

ส่วนปี 2568 ช่วง 4 เดือนแรก (มกราคม - เมษายน) การส่งออกสินค้าประมงของไทย มีมูลค่า 464.06 ล้านเหรียญสหรัฐ (15,654.61 ล้านบาท) หดตัว 10.55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.จีน (22.67% ของมูลค่าการส่งออกของไทย) 2.ญี่ปุ่น (19.52%) 3.สหรัฐฯ (12.90%) 4.อิตาลี (7.44%) และ 5.เกาหลีใต้ (5.87%) โดยการส่งออกสินค้าประมงจากไทยไปจีนมีมูลค่า 105.23 ล้านเหรียญสหรัฐ (3,549.13 ล้านบาท) หดตัว 20.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ทั้งนี้การส่งออกสินค้าประมงสร้างรายได้ให้ประเทศมาอย่างต่อเนื่อง การที่ญี่ปุ่นกลับมาส่งออกสินค้าประมงไปยังจีนได้ อาจส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดสินค้าประมงของไทยในจีนลดลง ดังนั้นผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์ทางการค้า เพื่อรักษาตลาดเดิม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยควบคุมคุณภาพมาตรฐานสินค้าประมง การขยายตลาดไปยังตลาดที่มีศักยภาพอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ (ขยายตัว 5.09% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568) แคนาดา (ขยายตัว 4.58%) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ขยายตัว 28.18%) กัมพูชา (ขยายตัว 9.9%) และฟิลิปปินส์ (ขยายตัว 8.49%) เป็นต้น รวมทั้งให้ความสำคัญในการแก้ไขประเด็นการทำประมงที่ผิดกฎหมาย การขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) รวมถึงส่งเสริมการทำประมงที่ยั่งยืน (Sustainable Fishing) อันจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการค้าและอุตสาหกรรมประมงของไทย

-033

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รุกใช้ระบบ \'GI SMARTTRACE\' นวัตกรรมตรวจสอบย้อนกลับสินค้า GI \'ทุเรียนนนท์\' รุกใช้ระบบ 'GI SMARTTRACE' นวัตกรรมตรวจสอบย้อนกลับสินค้า GI 'ทุเรียนนนท์'
  • กรมพัฒน์ รุกดันสมุนไพรไทยสู่เวทีโลก กรมพัฒน์ รุกดันสมุนไพรไทยสู่เวทีโลก
  • พาณิชย์ ชี้เป้าส่งออกเครื่องดื่ม Plant-Based เจาะตลาดรัสเซีย แนะโฟกัสเมืองใหญ่-คนหนุ่มสาว พาณิชย์ ชี้เป้าส่งออกเครื่องดื่ม Plant-Based เจาะตลาดรัสเซีย แนะโฟกัสเมืองใหญ่-คนหนุ่มสาว
  • คต.ดีเดย์ 1 ก.ค. พร้อมออก Form C/O ส่งออกไป EU ผ่านระบบ DFT SMART C/O คต.ดีเดย์ 1 ก.ค. พร้อมออก Form C/O ส่งออกไป EU ผ่านระบบ DFT SMART C/O
  • พาณิชย์ ร่วมมือ บก.ปคบ. จับกุมลานปาล์ม ฐานลักลอบทำปาล์มร่วง พาณิชย์ ร่วมมือ บก.ปคบ. จับกุมลานปาล์ม ฐานลักลอบทำปาล์มร่วง
  • ‘พาณิชย์’ ผลักดัน ‘เสื่อกกทองใบฯ’ สินค้าชุมชนคุณภาพ เพิ่มโอกาสทำตลาด ‘พาณิชย์’ ผลักดัน ‘เสื่อกกทองใบฯ’ สินค้าชุมชนคุณภาพ เพิ่มโอกาสทำตลาด
  •  

Breaking News

คืบหน้า! ไฟไหม้โรงงานทิชชูสระบุรี พบผู้เสียชีวิต 1 ยังสูญหาย 9 ราย

ทนายยัน 1 ก.ค.‘ทักษิณ’ไปศาลอาญา นัดสืบพยานคดีมาตรา 112

‘จีน’เผยยอดสมาชิก‘พรรคคอมมิวนิสต์’ทะลุ100ล้านคนแล้ว

‘ชูวิทย์’เลคเชอร์‘เรื่องตลก’พรรคร่วมฯ เหน็บจุกๆทุกครั้ง‘เพื่อไทย’เป็นรัฐบาล ต้องไล่ถึงจะลง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved