ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) จะเปิดให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form C/O) สำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (EU) ผ่านระบบ DFT SMART C/O อย่างครบวงจร โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอและติดตามสถานะออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และรับหนังสือรับรองฯ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว หรือ Self-printing ได้จากที่บ้านหรือสำนักงานของตนเอง
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือ Certificate of Origin (C/O) ให้ผู้ส่งออกนำไปใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร ณ ประเทศปลายทาง จะเปิดให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า สำหรับสินค้าที่ส่งออกไปสหภาพยุโรป (EU) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ (1) สินค้าที่ได้โควตาในการนำเข้า EU รวม 5 ประเภท ได้แก่ ปลา ไก่ มันสำปะหลัง แป้งมันสำปะหลัง ข้าว และ (2) สินค้า ที่ต้องมีหนังสือรับรองฯ ประกอบการส่งออกไป EU รวม 3 ประเภท ได้แก่ ใบยาสูบ หัตถกรรมทั่วไป ผ้าไหมและผ้าฝ้ายทอด้วยมือ ซึ่ง EU แจ้งว่ายอมรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form C/O) สำหรับสินค้าส่งออกไป EU ที่กรมฯจะให้บริการผ่านระบบ DFT SMART C/O แล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวประกอบด้วย การลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Signature and Seal (ESS)) และการเปลี่ยนแปลงแบบพิมพ์หนังสือรับรองฯ จากเดิมที่ใช้กระดาษต่อเนื่อง เป็นกระดาษ A4 (สีขาว) พร้อมทั้งแสดง QR code 2 รหัส ด้านล่างของหนังสือรับรองฯ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและรับรองการมีอยู่ของเอกสาร ณ เวลานั้น ๆ (e-timestamping)
ระบบ DFT SMART C/O ของกรมฯ ถือเป็นการยกระดับการให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบครบวงจรอย่างแท้จริง โดยมุ่งเน้นอำนวยความสะดวกในการใช้งานของผู้ประกอบการ ตั้งแต่การยื่นคำขอฯ การติดตามสถานะคำขอฯ ที่สามารถดำเนินการผ่านระบบฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดต่อขอรับหนังสือรับรองฯ ที่เจ้าหน้าที่อนุมัติแล้วด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถสั่งซื้อแบบพิมพ์ Form C/O ไป EU ผ่านเว็บไซต์ https://formstore.dft.go.th เพื่อนำไปพิมพ์เอง (Self - printing) จากสำนักงานหรือที่บ้านของผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรับ Form C/O สินค้าส่งออกไป EU ที่ง่ายดายและสะดวกรวดเร็ว ตอบโจทย์การค้ายุคใหม่ โดยผู้ประกอบการ ไม่จำเป็นต้องเดินทางมารับหนังสือรับรองฯ ที่หน่วยงานให้บริการ (No visit) อีกต่อไป สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่เคยขอหนังสือรับรองฯ ผ่านระบบ DFT SMART C/O ขอให้เตรียมความพร้อมโดยการสมัครบัญชีผู้ใช้งานประเภทนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา รวมถึงมอบ - รับมอบอำนาจ ผ่านระบบ DFT SMART - I ในลำดับแรกและส่งภาพลายเซ็น ภาพตราประทับ และไฟล์ Digital Certificate (DC) ผ่านระบบ DFT SMART C/O ให้เรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถยื่นขอ Form C/O ไป EU กับระบบ DFT SMART C/O ได้ต่อไป
นางอารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างปี 2565-2567 มีการออก Form C/O ไป EU รวมทั้งสิ้น 50,526 ฉบับ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3,891 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสินค้าที่มีผู้ประกอบการขอ Form C/O ไป EU มากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ไก่ จำนวน 47,654 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 3,668 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ข้าว จำนวน 1,857 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 106 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ แป้งมันสำปะหลัง จำนวน 602 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าการเปิดให้บริการ Form C/O ไป EU ผ่านระบบ DFT SMART C/O จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและส่งเสริมการค้าระหว่างไทยและสหภาพยุโรปสำหรับสินค้าดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึงปัจจุบัน กรมฯได้เปิดให้บริการออกหนังสือรับรองฯ ผ่านระบบ DFT SMART C/O รวม 11 ประเภท ได้แก่ Form RCEP, Form อาเซียน - ฮ่องกง, Form อาเซียน - ญี่ปุ่น, Form ไทย - เปรู, Form อาเซียน - จีน, Form อาเซียน - เกาหลี, Form C/O ทั่วไป, Form อาเซียน - ออสเตรเลีย - นิวซีแลนด์, Form ไทย - ญี่ปุ่น Form ไทย - ออสเตรเลีย และ e-Form D (อาเซียน) โดยมีปริมาณการออก Form รวมทั้งสิ้น 983,870 ฉบับ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 90,033.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับ Form ที่มีผู้ประกอบการขอมากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ Form E (อาเซียน - จีน) จำนวน 363,635 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 34,865.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Form C/O ทั่วไป จำนวน 273,838 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 19,156.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Form ไทย - ญี่ปุ่น จำนวน 120,663 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 7,336.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกรมฯ มีแผนจะเปิดให้บริการออกฟอร์มอีก 3 ประเภท ได้แก่ อาเซียน - อินเดีย ไทย - อินเดีย และไทย - ชีลี ผ่านระบบ DFT SMART C/O ให้ได้ภายในปี 2568
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี