4 กรกฎาคม 2568 เวลา 8.30 น. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ ตำบลสระแก้ว อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดกิจกรรมเชื่อมโยงผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต โดยเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า “วันนี้ผมดีใจที่ได้มาเยี่ยมพื้นที่พี่น้องชาวสวนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งได้มีโอกาสพบปะ พี่น้องเกษตรกรชาวสวนมังคุด เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้ภาคใต้ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมไปด้วยกัน
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ”การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อแก้ปัญหาความเดือนร้อนให้กับเกษตกร ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยเป็นภารกิจแรกหลังการเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งวันนี้เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าระยะสั้น กรมการค้าภายใน ได้นำผู้ประกอบการทั้งห้างค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ สถานีบริการน้ำมัน รวมทั้งไปรษณีย์ไทย เข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตมังคุดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวนกว่า 2,200 ตัน เพื่อนำไปจำหน่ายยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว จะมีการหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ พร้อมยืนยันสถานการณ์มังคุดจะคลี่คลายลงใน 2 สัปดาห์ ผ่านกลไกความร่วมมือของทุกภาคส่วน ด้วยนโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย"
สำหรับคาดการณ์ผลผลิตมังคุดในภาคใต้ มีปริมาณ 109,697 ตัน โดยเป็นผลผลิตของจังหวัดนครศรีธรรมราช ปริมาณ 40,063 ตัน โดยขณะนี้ของจ.นครศรีธรรมราช ได้เริ่มออกสู่ตลาดแล้วกว่า 40% เพื่อเป็นการรองรับผลผลิตดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้มีแผนและมาตรการรองรับผลผลิตในส่วนของภาคใต้รวมกว่า 64,000 ตัน ผ่านมาตรการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงเข้าสู่ตลาดของผู้บริโภคโดยการรับซื้อจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ที่ตั้งเป้าการรับซื้อกว่า 6,000 ตัน กิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ Thai fruit festival 2025 และห้างซุปเปอร์ชีปทั่วภาคใต้ กว่า 2,000 ตัน เชื่อมโยงมังคุดภาคใต้ผ่านห้างค้าปลีก-ส่ง ปริมาณ 6,000 ตัน ประสานผู้ส่งออกเร่งเข้ารับซื้อผลไม้ภาคใต้ในพื้นที่ ตั้งเป้ามังคุดนครศรีธรรมราช วันละ 300 ตัน รวมกว่า 15,000 ตัน เพิ่มศักยภาพและส่งเสริมสภาพคล่องให้ผู้รวบรวมรับซื้อผลไม้เพื่อส่งออก ทั้งทุเรียนและมังคุดปริมาณรวม 35,000 ตัน
ด้านนายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้กล่าวถึงการเชื่อมโยง ว่า “ในวันนี้กรมการค้าภายใน ได้ดำเนินตามข้อสั่งการของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยได้นำผู้แทนของภาคเอกชนมาลงพื้นที่เพิ่อพบกับพี่น้องเกษตรกรด้วย ประกอบด้วยห้างค้าปลีก-ค้าส่ง มารับซื้อผลผลิตมังคุดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยแบ่งเป็น แม็คโครโลตัสในเครือซีพีเอ็กซ์ตร้า จำนวน 1,300 ตัน บิ๊กซี จำนวน 650 ตัน ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 130 ตัน โกโฮเซลล์ จำนวน 40 ตัน และห้างเดอะมอลล์ จำนวน 80 ตัน รวมปริมาณผลผลิตมังคุดนครศรีธรรมราช ที่เข้าสู่กลไกของห้างค้าปลีกค้าส่ง จำนวน 2,200 ตัน “
นายจตุพร ถึงกิจกรรมในวันนี้ว่า “และในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการการกระจายผลผลิตมังคุดนครศรีธรรมราช ไปสู่ผู้บริโภค โดยจะปล่อยคาราวานมังคุด ของพี่น้องเกษตรกรจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนของพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งหมด 4 กลุ่ม ใน 3 อำเภอ ได้แก่ พรหมคีรี ฉวาง และท่าศาลา จำนวนรถ 13 คัน มังคุดรวมกว่า 40 ตัน มูลค่ากว่า 1,050,000 บาท โดยนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ในมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมดที่จะช่วยพี่น้องเกษตรกรนครศรีธรรมราช ให้ผลไม้ของท่านมีแหล่งจำหน่ายโดยกระจายไปในที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
“สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้ คือความร่วมมือกันในการช่วยเหลือกัน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะดำเนินนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” ให้เกิดขึ้นจริง เพื่อให้คนไทยได้สนับสนุนช่วยเหลือกัน เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง และสร้างรอยยิ้มให้พี่น้องทุกครอบครัว ผมเชื่อมั่นว่า หากเราร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องเกษตรกร จะก้าวข้ามทุกอุปสรรคไปด้วยกันได้” นายจตุพร กล่าวทิ้งท้าย
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี