วันจันทร์ ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
มุมมองนักบริหาร :  5 ปีในบทบาท 'ธนาคารเพื่อสังคม' ของธนาคารออมสิน ช่วยคนไทย 13 ล้านชีวิตได้ไปต่อ

มุมมองนักบริหาร : 5 ปีในบทบาท 'ธนาคารเพื่อสังคม' ของธนาคารออมสิน ช่วยคนไทย 13 ล้านชีวิตได้ไปต่อ

วันจันทร์ ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 07.15 น.
Tag : มุมมองนักบริหาร
  •  

**เชื่อว่าตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา สังคมไทยได้เห็นบทบาทของธนาคารออมสิน ภายใต้การนำของ คุณวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนและสังคมมากมายเพียงไหน ขณะเดียวกันก็ยังสร้างความมั่นคงแข็งแกร่งให้กับธนาคารออมสินควบคู่กันไปด้วย

คุณวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงความสำเร็จการนำองค์กรและผลการดำเนินงานธนาคารออมสิน ว่า ในรอบระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2563 ที่ได้ริเริ่มปรับจุดยืนทางยุทธศาสตร์ พลิกบทบาทธนาคารออมสินมาเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” โดยการทำธุรกิจธนาคารปกติเพื่อนำกำไรเชิงพาณิชย์ มาใช้สนับสนุนการทำภารกิจเชิงสังคม และขับเคลื่อนภารกิจหลัก 4 ด้านของธนาคาร ได้แก่ 1.การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนในระบบสถาบันการเงิน 2.การแก้ไขปัญหาหนี้สิน 3.บทบาทงานพัฒนาสังคมและชุมชน และ 4.การสนับสนุนนโยบายรัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อันถือเป็นหน้าที่ของสถาบันการเงินของรัฐตามกฎหมาย


ทั้งนี้ผลงานที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้สร้าง Social Impact เกิดผลกระทบเชิงบวก สามารถช่วยเหลือคนไทยจำนวนกว่า 13 ล้านคน จากจำนวนบัญชีทั้งสิ้น 18.8 ล้านบัญชี คิดเป็นเม็ดเงิน 1.4 ล้านล้านบาท โดยหลังจากนี้ธนาคารออมสินตั้งเป้าสร้าง Social Impact ให้ได้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านรายต่อปี และแม้ว่าธนาคารออมสินจะปรับจุดยืนทางยุทธศาสตร์เป็นธนาคารเพื่อสังคม ช่วยคนฐานรากได้มากขึ้น แต่สถานะทางการเงินยังเติบโตแข็งแกร่ง ไม่เกิดความเสียหายแก่องค์กร โดยธนาคารออมสินยังสามารถนำส่งเงินกำไรให้เป็นงบประมาณกับรัฐบาลได้มากกว่า 96,000 ล้านบาท ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา นับเป็นรัฐวิสาหกิจที่ส่งเงินให้รัฐสูงสุดหนึ่งในสามลำดับแรก

สำหรับภารกิจที่สร้าง Impact โดดเด่น คือ การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนในระบบสถาบันการเงิน (Financial Inclusion) โดยแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างทางการเงินและสร้างนวัตกรรมการเงินเพื่อสังคม ช่วยคนไทยกลุ่มฐานรากให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบแล้ว เป็นจำนวนกว่า 7.5 ล้านราย หรือ 10.4 ล้านบัญชี คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 1.4 ล้านล้านบาท ผ่านมาตรการต่างๆ เช่น สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ ที่มีผู้ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 340,000  ราย วงเงินกว่า 6,000 ล้านบาท การริเริ่มโครงการสินเชื่อสร้างเครดิตสร้างโอกาส เพื่อกลุ่ม Unserved/Underserved และการเปิดบริษัท เงินดีดี จำกัด เพื่อขยายโอกาสการปล่อยสินเชื่อแก่กลุ่มฐานรากได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังทำภารกิจที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันสมบูรณ์ในตลาดสินเชื่อจำนวนทะเบียนมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างดอกเบี้ยในตลาดนี้ ช่วยให้ลูกค้ากลุ่มฐานรากได้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำด้วยต้นทุนที่เป็นธรรม ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยตลาดจำนำทะเบียนลดลงเหลือ 16-18% โดยมาตรการดังที่กล่าวมาเป็นเพียงบางส่วนของภารกิจสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้สิน นับตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ธนาคารออมสินสามารถช่วยเหลือบรรเทาภาระหนี้ และป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียประวัติทางการเงิน จำนวนลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือ 6.4 ล้านราย เป็นจำนวน 8.5 ล้านบัญชี ผ่านโครงการแก้หนี้เชิงรุก อาทิ การปลดหนี้ลูกหนี้รายย่อยสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด รวมแล้วกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตรการ Re-finance เพื่อสังคม และการชะลอการดำเนินคดีตามกฎหมายกับลูกหนี้สถานะ NPLs ผ่านมาตรการ 4 ไม่ การพักหนี้ ลด/ไม่คิดดอกเบี้ย การขับเคลื่อนมาตรการคุณสู้ เราช่วย ได้มากถึง 190,000 ราย หรือ 300,000 บัญชี คิดเป็น 33% ของผู้มีสิทธิ์ที่ลงทะเบียนทั้งระบบ ตลอดจนการตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ Ari-AMC เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ด้อยคุณภาพ ทั้งหมดนี้เพื่อฟื้นเสถียรภาพทางการเงิน และคืนความสามารถในการดำรงชีวิตให้ประชาชน โดยประคับประคองไม่ให้ลูกหนี้เสียวินัยการเงินด้วย

ภารกิจสำคัญอีกด้านที่ประสบความสำเร็จชัดเจน คือ ด้านการพัฒนายกระดับศักยภาพชุมชนและสังคม ที่มีผู้ได้รับประโยชน์แล้วกว่า 1.07 ล้านราย ผ่านโครงการพัฒนาต่างๆ อาทิ โครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) โครงการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการรายย่อยและองค์กรชุมชน รวมถึงเดินหน้าภารกิจส่งเสริมทักษะความรู้ทางการเงินและการออม ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการออมต่อเนื่องและการออมระยะยาวสำหรับกลุ่มเป้าหมายหลากหลาย และการใช้เครื่องมือให้ความรู้ใหม่ๆ เช่น แอปพลิเคชัน โค้ชออม เป็นต้น

ความสำเร็จอีกด้านที่สำคัญ คือ การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของธนาคารออมสิน เพื่อเป้าหมายความสำเร็จในการขยายผลสร้าง Social Impact ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยธนาคารได้ริเริ่มการบริหารจัดการรูปแบบกลุ่มธุรกิจ จัดตั้ง 4 บริษัทย่อยทำธุรกิจ 4 ด้าน ได้แก่ 1.บริษัท เงินดีดี จำกัด ขยายผลการเข้าถึงสินเชื่อของรายย่อย/กลุ่มฐานราก 2.บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด ขยายการเข้าถึงสินเชื่อ SMEs 3.บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด เพื่อแก้ปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ และ 4.บริษัท จีเอสบี ไอที แมเนจเมนท์ จำกัด เพื่อยกระดับศักยภาพ Digital & AI สนับสนุนภารกิจธนาคารออมสิน

ปัจจุบันธนาคารออมสินเป็นรัฐวิสาหกิจกลุ่ม 6 ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง รับผิดชอบขับเคลื่อนทุกบทบาทภารกิจของธนาคารเพื่อสังคมทั้ง 4 บทบาท โดยที่ผลการดำเนินงานด้านการเงินของธนาคารออมสินมีความมั่นคงแข็งแกร่ง มีสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝากเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในระดับสูง ที่ระดับ 18.83 และมีเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั่วไป (General Provision) ที่เติบโตจาก 4 พันล้านบาท ในปี 2562 สูงขึ้นเป็น 7.3 หมื่นล้านบาท ในปัจจุบัน โดยเงินสำรองรวมสูงแตะระดับ 1.3 แสนล้านบาท สะท้อนความมั่นคงแข็งแกร่งของธนาคาร ขณะที่ยังคงสามารถนำส่งกำไรกลับเป็นรายได้เข้าแผ่นดิน (เงินนำส่งคลัง) ได้สูงเป็นลำดับที่ 3 หรือกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ในปี 2567

**อนันตเดช พงษ์พันธุ์**        

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • มุมมองนักบริหาร : เส้นทางการการขับเคลื่อนการเงินดิจิทัลของไทย มุมมองนักบริหาร : เส้นทางการการขับเคลื่อนการเงินดิจิทัลของไทย
  • มุมมองนักบริหาร : เปิดแผนธุรกิจ‘กสิกรไทย’ปี’68  เดินหน้ายุทธศาสตร์ 3+1 และ Productivity…เพื่อ6เป้าหมายทางการเงิน มุมมองนักบริหาร : เปิดแผนธุรกิจ‘กสิกรไทย’ปี’68 เดินหน้ายุทธศาสตร์ 3+1 และ Productivity…เพื่อ6เป้าหมายทางการเงิน
  • มุมมองนักบริหาร : ‘PASSION 2030’ ของกลุ่มไทยเบฟฯ  มุ่งสู่เติบโตอย่างยั่งยืน มุมมองนักบริหาร : ‘PASSION 2030’ ของกลุ่มไทยเบฟฯ มุ่งสู่เติบโตอย่างยั่งยืน
  • มุมมองนักบริหาร : ธ.ออมสิน...ยอมลดกำไรลง  ต่อยอด ‘Social Bank’ เพื่อ ‘Social Impact’ มุมมองนักบริหาร : ธ.ออมสิน...ยอมลดกำไรลง ต่อยอด ‘Social Bank’ เพื่อ ‘Social Impact’
  • มุมมองนักบริหาร : 3เดือนแห่งความท้าทายของคลัง  ที่จะวิ่งสู่เป้าหมายดันเศรษฐกิจให้โต2.4%ตามเป้า มุมมองนักบริหาร : 3เดือนแห่งความท้าทายของคลัง ที่จะวิ่งสู่เป้าหมายดันเศรษฐกิจให้โต2.4%ตามเป้า
  • มุมมองนักบริหาร : บทบาทใหม่ของกรมสรรพสามิต เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจไทยบนวิถีของความยั่งยืน มุมมองนักบริหาร : บทบาทใหม่ของกรมสรรพสามิต เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจไทยบนวิถีของความยั่งยืน
  •  

Breaking News

'ฮุน มาเนต'ลั่น! ไทยต้องเปิดด่านก่อนเพราะเป็นคนเริ่มปิด

‘สุชาติ’ยันเร่งออก ก.ม.คุ้มครองพุทธศาสนา คาด 3-4 เดือนชัด

ปืนได้เฮ!ปิดดีลจ่อคว้า‘เยอเคเรส’ปักหอก

เขมรเคลมสำเร็จ!! ฉก 22 วรรณกรรมไทยสอดไส้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกแล้ว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved