สิงห์ เอสเตท ตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า ‘บ้าน’ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่คือพื้นที่สร้างความสมดุลของชีวิตให้ทุกคน
ได้แสดงออกและใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ พร้อมเติมเต็มทุกมิติของการใช้ชีวิตอย่าง EXTRA สะท้อนแนวคิดของโครงการ ‘THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘EXTRAORDINARY’ ผ่านการจัดนิทรรศการศิลปะและเวิร์กช็อป
‘The Second Pulse’ นำเสนอผลงานพร้อมเรื่องราวผ่านแรงบันดาลใจของ ‘หมอตุ่น–หมอปิแอร์–หมอฟรัง–นิสิตแพทย์พฤกษ์’ เพื่อผลักดันให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงออกในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ ซึ่งอาจเป็นความ EXTRA หรือสิ่งที่เปรียบเสมือน ‘ชีพจรที่สอง’ ของแต่ละคน หนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์คือ การนำผลงานภาพวาดสีน้ำรูปดอกไม้ของ หมอตุ่น - พญ.วริศรา ไปจัดประมูล ซึ่งรายได้ทั้งหมดมอบให้กับ มูลนิธิรามาธิบดีฯ โดยไม่หักค่าใช้จ่าย
นาย ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ กล่าวว่า “สิงห์ เอสเตท มุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่กล้าทำในสิ่งที่รัก แม้จะไม่ใช่เส้นทางที่เรียนมาหรือทำเป็นอาชีพหลัก เราเชื่อว่าในชีวิตของทุกคนมีบางสิ่งที่ ‘EXTRA’ เพื่อเติมเต็มจังหวะชีวิตอีกด้าน สำหรับโครงการ ‘THE EXTRO
พญาไท-รางน้ำ’ ซึ่งมีลูกบ้านจำนวนไม่น้อยเป็นบุคลากรทางการแพทย์และนักศึกษาแพทย์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่เราได้จัดนิทรรศการศิลปะและเวิร์กช็อป ‘The Second Pulse’ ขึ้นเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและแรงบันดาลใจนอกเหนือเสื้อกาวน์ โดยเราตั้งใจที่จะส่งเสริมและต่อยอดงานสร้างสรรค์เช่นนี้ต่อไป เพื่อให้โครงการ ‘THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ’ เป็นพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้ค้นพบตัวตนและเติมเต็มความสุขของชีวิต นอกจากนี้ สิงห์ เอสเตทยังให้ความสำคัญกับงานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และเปี่ยมด้วยเรื่องราวมาโดยตลอด อย่างโครงการ ‘THE EXTRO พญาไท-รางน้ำ’ ก็ได้รับรางวัล Best Luxury Condo Architectural Design จากเวที PropertyGuru Thailand Property Awards 2024 ด้วย”
นิทรรศการศิลปะและเวิร์กช็อป ‘The Second Pulse’ นำเสนอ ‘ชีพจรที่สอง’ ของ ‘หมอตุ่น–หมอปิแอร์–หมอฟรัง–นิสิตแพทย์พฤกษ์’ ความคิดสร้างสรรค์นอกห้องตรวจ ความสุขอีกด้านในชีวิตผ่านผลงานศิลปะ ขนมที่ชื่นชอบ และธุรกิจส่วนตัว ที่สะท้อนให้เห็นว่า ‘ความสุข’ สามารถเกิดขึ้นได้จากสิ่งเล็กๆ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้สะท้อนความเป็นตัวเองผ่านเวิร์กช็อปจัดดอกไม้อีกด้วย
นิสิตแพทย์พฤกษ์ มัธยมจันทร์ นิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 6 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความสุขที่ตนเองได้ค้นพบว่า“การวาดภาพด้วยมือ ทำให้เรารู้จักปล่อยวางความสมบูรณ์แบบลงและหันมาให้ความสำคัญต่อการถ่ายทอดอารมณ์และสัมผัสถึงพลังของศิลปะผ่านประสาทสัมผัส การวาดภาพสำหรับผมจึงไม่ใช่แค่กิจกรรมยามว่าง แต่เป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเองได้ปล่อยอารมณ์ ความคิด และความรู้สึก ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ผมสามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ ผมอยากให้ทุกคนลองค้นหาชีพจรที่สองของตนเอง เพื่อค้นพบความสุขอีกด้านของชีวิต”
นอกจากการค้นหาชีพจรที่สองของตนเองแล้ว หมอตุ่น - พญ.วริศรา รุทระวณิช แพทย์ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังสะท้อนถึงบทบาทของศิลปะในการจัดการกับความเครียด อารมณ์ และสมาธิ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตว่า “บางคนอาจมีความเครียดโดยไม่รู้ตัว การได้หาพื้นที่ที่ใช่สำหรับตนเองเพื่อหาจุดบาลานซ์ของชีวิตจึงเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับหมอตุ่นเองหลงใหลในการวาดภาพด้วยสีน้ำ เพราะเป็นสีที่เราไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ต้องฝึกการปล่อยวางและการยอมรับ ให้น้ำเป็นตัวนำพา ลืมสิ่งนอกกายที่เราควบคุมไม่ได้และจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี