กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) หารือผู้บริหาร H Mart ห้างค้าปลีกสินค้าเอเชียชั้นนำในสหรัฐฯ ซึ่ง H Mart ยืนยันนำเข้าสินค้าไทยต่อไป แม้จะมีประเด็นเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ พร้อมขอให้ DITP จัดแมชชิ่งผู้ส่งออกข้าวและน้ำผลไม้เมืองร้อนเพิ่ม โดย H Mart ยินดีให้ความร่วมมือตั้งร้าน “TOPTHAI” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมสินค้าไทยบนช่องทางออนไลน์ของ H Mart นอกจากนี้ H Mart ได้ตั้งเป้าเข้าร่วมงาน “THAIFEX-ANUGA ASIA 2569” และเข้าร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวที่ สคต. ณ นครนิวยอร์ก จัดเป็นประจำทุกปี
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการนำคณะเข้าหารือกับผู้บริหาร H Mart ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกสินค้าเอเชียที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ว่า กรมฯได้การหารือกับ Rich Lee กรรมการบริหาร, Joohye Kang ผู้จัดการอาวุโส และ Vesper Hsu ฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งกรมฯ และ H Martได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความต้องการสินค้าไทยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก H Mart มีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 3 สาขา ภายในปี 2568 นี้ และมีแนวโน้มจะขยายบริษัทเพิ่มเติมอีกในอนาคต จึงทำให้ H Mart มีความต้องการนำเข้าสินค้ามากขึ้น
นอกจากนี้ H Mart ขอให้กรมฯจัดหาผู้ส่งออกไทยเพิ่มขึ้น โดย H Mart ให้กรมฯจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจให้กับสินค้าประเภทข้าว ข้าวหอมมะลิ น้ำผลไม้เมืองร้อน เช่น น้ำมะพร้าว น้ำกะทิ น้ำส้ม น้ำสับปะรด เป็นต้น อย่างไรก็ตามแม้ H Mart จะกังวลเรื่องอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ แต่ก็มีความมั่นใจว่าภาครัฐไทยจะมีมาตรการต่างๆที่จะสามารถช่วยเหลือผู้ส่งออกไทย โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐฯ
ทั้งนี้กรมฯยังได้หารือประเด็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้าง H Mart เพิ่มเติมในลักษณะของร้านที่ขายสินค้าไทยโดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อร้าน “TOPTHAI” เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและเลือกซื้อสินค้าจากไทยได้ง่ายขึ้น ซึ่งกรมฯได้จัดทำรูปแบบร้านออนไลน์ TOPTHAI ลักษณะนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วกว่า 10 แพลตฟอร์มในหลายประเทศ โดยปี 2567 ที่ผ่านมากรมฯได้เคยร่วมกับ H Mart จัดกิจกรรม Online In-Store Promotion เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าไทยแล้ว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม-1 กันยายน 2567 อาทิ ข้าวหอมมะลิ กะทิ น้ำมะพร้าว ขนมขบเคี้ยว โดยมียอดขายสินค้าไทยกว่า 8.4 ล้านบาท
ในขณะเดียวกันกรมฯยังได้เชิญให้ผู้บริหาร H Mart เข้าร่วมชมและเลือกซื้อสินค้าอาหารไทย ในงาน “THAIFEX–ANUGA ASIA 2569” เพื่อคัดเลือกสินค้าไทยนำไปจำหน่ายเพิ่มเติม นอกเหนือจากสินค้าที่มีการนำเข้าอยู่แล้ว รวมทั้งกรมฯยังได้เชิญ H Mart เข้าร่วมงานกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าว เพื่อได้รับรู้และลิ้มรสอาหารไทยในหลายเมนูที่จัดโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก หรือ สคต. ณ นครนิวยอร์ก ที่จะจัดขึ้นในปีถัดไป
สำหรับ H Mart เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชียน-อเมริกัน ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ปัจจุบัน H Mart มีทั้งหมดใน 16 รัฐของสหรัฐฯ ซึ่งตั้งเป้าว่าจะขยายเป็น 87 สาขา ภายในปี 2568 นี้ และมีรายได้รวมต่อปีอยู่ระหว่าง 1,200–1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 43,200–54,000 ล้านบาท ปัจจุบัน H Mart ได้นำเข้าสินค้าจากไทยแล้ว อาทิ อาหารทะเล ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้กระป๋อง ผลไม้อบแห้ง ข้าวหอมมะลิ เส้นก๋วยเตี๋ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรส น้ำปลาร้า ขนมขบเคี้ยว และอาหารสำเร็จรูป
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี