วันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
เอสซีจี เดินหน้าขับเคลื่อน ‘SCG Roof Green Innovation’

เอสซีจี เดินหน้าขับเคลื่อน ‘SCG Roof Green Innovation’

วันพุธ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.42 น.
Tag : นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ วัสดุ สิ่งแวดล้อม เอสซีจี โฮม
  •  

นายอนุสรณ์ พจนบรรพต Head of Housing Product Solution Business บริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด กล่าวว่า เอสซีจีไม่เคยหยุดพัฒนานวัตกรรมและระบบหลังคาที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนไทยได้ครบทุกมิติ ปัจจุบัน ‘SCG Roof Green Innovation’ เป็นมากกว่านวัตกรรมเชิงเทคนิค แต่คือระบบที่ตั้งต้นจากความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เพื่อยกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัยของคนไทย พร้อมสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคม

“SCG Roof Green Innovation” กับนวัตกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ


หลังคาเอสซีจีให้ความสำคัญกับทุกกระบวนการ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์ การคัดเลือกวัตถุดิบ จนถึงเรื่องของกระบวนการผลิต เช่น การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคาร์บอนต่ำอย่างปูนซีเมนต์ไฮบริดซึ่งปัจจุบันในกระบวนการผลิตของเอสซีจี ปรับมาใช้ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ยังเลือกใช้วัสดุหมุนเวียนทดแทนวัสดุจากธรรมชาติ เช่น เศษกระเบื้องบด Fly Ash รวมไปถึงการปรับเปลี่ยน และเพิ่มการใช้พลังงานสะอาด

นายกรกฤธ เฟื่องวุฒิ Product and Solution Development Director บริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาในทุกกระบวนการ ตั้งแต่วัตถุดิบ ไปจนถึงระบบติดตั้ง เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อาทิ การใช้พลังงานสะอาด โดยใช้ฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้า (EV Forklift) , โซลาร์พาแนล (Solar Panel) จากพลังงานแสงอาทิตย์, Solar Farm รวม 21% และ พลังงานชีวมวล (Biomass) 22% รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรให้ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าสูงสุด ส่งผลให้หลังคาเอสซีจี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 27% เมื่อเทียบกับปีฐาน 2020 เทียบเท่ากับการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 12,400 Ton CO2 ซึ่งเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้น ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอสซีจีในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

นวัตกรรมเพื่อ “Better Living” ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย

หลังคาเอสซีจีเป็นรายแรกในประเทศไทยในกลุ่มผู้ผลิตหลังคาที่ได้รับรอง "ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์" ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตของสินค้า เพื่อแสดงความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจและสนับสนุนแนวคิดอาคารเขียว หรืออาคารที่ออกแบบเพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  และยังเป็นรายแรกที่ไม่ใช้แร่ใยหินในกระบวนการผลิตมากกว่า 18 ปี สะท้อนถึงความใส่ใจเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและผู้ติดตั้ง

เอสซีจีตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิที่สูงขึ้นหรือฝนตกหนักผิดปกติ จึงได้นำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจหลังคามาพัฒนาเทคโนโลยีและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์บ้านยุคใหม่ ที่ไม่เพียงมอบความอยู่สบาย แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด “Green Innovation” ที่สร้างทั้งความมั่นใจและความยั่งยืนให้กับทั้งเจ้าของบ้านและโลกของเรา โดยเอสซีจีให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลังคาและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง คำนึงถึงทั้งความสวยงาม คุณภาพ และเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการออกแบบระบบหลังคาให้ช่วยลดความร้อน ทนทานต่อแรงลม และรองรับฝนตกหนัก ซึ่งเกิดขึ้นถี่ขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเก็บข้อมูลสภาพอากาศและอุณหภูมิอย่างต่อเนื่อง พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิสูงสุดบนหลังคาเพิ่มขึ้นจาก 70 องศาเซลเซียส เป็น 75 องศาเซลเซียส ทำให้เอสซีจียกระดับนวัตกรรมและการออกแบบระบบหลังคาให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่เย็นสบายและเหมาะกับทุกฤดูกาลอย่างยั่งยืน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านหลังคา เอสซีจีมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเน้นการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และใส่ใจสุขภาพของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เอสซีจีได้พัฒนาเทคโนโลยีการเคลือบผิวหลังคา (Coating) อาทิ X-Shield และ X-Shield Heat Block ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตแบบ Water Based ที่มีค่า VOC ต่ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและคงความสวยงามของสีหลังคาได้ยาวนานขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับในอดีต โดยนวัตกรรมเหล่านี้ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี และสามารถกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เอสซีจียังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์บ้านยุคใหม่ เช่น กระเบื้องหลังคาที่ใช้สีปล่อยไมโครพลาสติกต่ำ ช่วยดักจับมลพิษในอากาศ ลดฝุ่นควัน พร้อมระบบ Self-Cleaning ที่ช่วยลดคราบสกปรกและฝุ่นสะสม ทำให้หลังคาสะอาดอยู่เสมอเหมาะกับทุกเจเนอเรชัน ขณะที่ด้านการติดตั้งยังมาพร้อมระบบหลังคาสำเร็จรูปที่ช่วยลดการใช้วัสดุโครงเหล็กได้ถึง 25% ต่อบ้าน 1 หลัง (เมื่อเทียบกับโครงเหล็กทั่วไป)   พร้อมอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบให้รองรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ตอกย้ำแนวคิด “Better Living” ที่มุ่งสร้างสุขภาวะที่ดีควบคู่ไปกับความยั่งยืนในระยะยาว

เอสซีจียังคงเดินหน้าลงทุนในกระบวนการผลิต การออกแบบ และการพัฒนาเทคโนโลยีในการนำวัสดุเหลือใช้ (Waste) กลับมาใช้ใหม่ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในด้านคุณภาพ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และเพิ่มสัดส่วนวัสดุหมุนเวียนจากหลากหลายอุตสาหกรรมร่วมกับกลุ่มผู้ผลิตหลังคาและกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ผ่านกลุ่ม CECI ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ  เพื่อพัฒนาหลังคาคาร์บอนต่ำที่ยังคงคุณภาพสูงสุด และตอบโจทย์การอยู่อาศัยในสภาวะอากาศแปรปรวน

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความล้ำสมัย แต่เกิดจากความตั้งใจจริงในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับคนรุ่นต่อไป เพราะเอสซีจีเชื่อว่า “นวัตกรรม” ที่แท้จริงต้องตอบโจทย์ทั้ง “ชีวิตของผู้คน” และ “ความยั่งยืนของโลก” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เอสซีจียังคงครองความเป็นแบรนด์หลังคาอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคมาโดยตลอด คุณอนุสรณ์กล่าวทิ้งท้าย

- 030 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • LIV-24 เครือแสนสิริปักหมุด ‘Smart Tech’ รุกตลาดภูเก็ต LIV-24 เครือแสนสิริปักหมุด ‘Smart Tech’ รุกตลาดภูเก็ต
  • INSEE LBM เปิดตัวนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างเพื่ออนาคต INSEE LBM เปิดตัวนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างเพื่ออนาคต
  • ‘วอลล์ เทคโนโลยี’ ชูวัตกรรมแผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป PIR รายแรกในไทย ‘วอลล์ เทคโนโลยี’ ชูวัตกรรมแผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป PIR รายแรกในไทย
  • สีเบเยอร์ จับมือ SC Asset ชูนวัตกรรมรักษ์โลก สีเบเยอร์ จับมือ SC Asset ชูนวัตกรรมรักษ์โลก
  • จับตา 5 เทรนด์นวัตกรรมก่อสร้างพลิกโลก สู่ทางออก Carbon Net Zero จับตา 5 เทรนด์นวัตกรรมก่อสร้างพลิกโลก สู่ทางออก Carbon Net Zero
  • เอสซีจีอ่วมกำไรวูบ 76% หลังบริษัทร่วมกำไรร่วงกราว เอสซีจีอ่วมกำไรวูบ 76% หลังบริษัทร่วมกำไรร่วงกราว
  •  

Breaking News

‘กสม.’ประณามกัมพูชาโจมตีพลเรือน-วอนทุกฝ่ายหยุดสร้างความเกลียดชังเชื้อชาติ

เรียลไทม์! รายงานเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 9 จุดสำคัญ

ชาวบุรีรัมย์ผวา!! เร่งอพยพ หลัง'เขมร'ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่ตกใส่แล้วกว่า 50 ลูก

ประณามไทย! วุฒิสภากัมพูชาออกแถลงการณ์ 6 ข้อ วอนนานาชาติช่วย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved