วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
พลิกโฉมโลกการชำระเงินแห่งอนาคต: จาก AI สู่การชำระเงินแบบเรียลไทม์

พลิกโฉมโลกการชำระเงินแห่งอนาคต: จาก AI สู่การชำระเงินแบบเรียลไทม์

วันพุธ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.24 น.
Tag : เทคโนโลยี ระบบชำระเงิน วีซ่า AI
  •  

ภูมิทัศน์ของระบบการชำระเงินกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ภายใต้แรงขับเคลื่อนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วีซ่ามองเห็น 4 เทรนด์สำคัญที่จะมีบทบาทในการกำหนดรูปแบบการชำระเงินแห่งอนาคต


เทรนด์ที่ 1: พลัง AI ต้านภัยการฉ้อโกง

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะมีบทบาทสำคัญในการออกแบบประสบการณ์การชำระเงินให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และเสริมประสิทธิภาพในการตรวจจับการฉ้อโกงด้วยอัลกอริธึมแบบเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ที่จะมีความซับซ้อนยิ่งขึ้นในการวิเคราะห์รูปแบบของธุรกรรมและระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์

วีซ่าเดินหน้ายกระดับความปลอดภัยและประสบการณ์ของผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา วีซ่าได้ลงทุนกว่า 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และระบบข้อมูล ล่าสุดปีนี้ได้เปิดตัว 3 โซลูชันใหม่ ภายใต้ Visa Protect ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI ถูกออกแบบมาให้ป้องกันความเสี่ยงและช่วยลดการฉ้อโกงในธุรกรรมระหว่างบัญชี (Account-to-Account หรือ A2A) และธุรกรรมที่ไม่ใช้บัตร (Card-not-Present หรือ CNP) ทั้งภายในและภายนอกเครือข่ายของวีซ่า โซลูชันเหล่านี้ของวีซ่าช่วยให้สถาบันการเงินและองค์กรพันธมิตรสามารถตรวจจับและป้องกันความเสี่ยงได้แบบเรียลไทม์ พร้อมมอบประสบการณ์ที่ปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค

เทรนด์ที่ 2: ตัวตนแบบดิจิทัล เพิ่มความสะดวกให้การยืนยันตัวตน

การยืนยันตัวตนในโลกดิจิทัลกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ จากเดิมที่ต้องพึ่งพารหัสผ่าน คำถามยืนยันตัวตน หรือหมายเลขบัตรเครดิต ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มักตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ ปัจจุบันการยืนยันตัวตนกำลังเปลี่ยนไปใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ เช่น ใบหน้า ลายนิ้วมือ หรือข้อมูลไบโอเมตริกซ์อื่น ๆ ที่มีความปลอดภัยมากขึ้นและยากต่อการปลอมแปลง

วีซ่า มีโซลูชัน Click to Pay และ Visa Payment Passkey ที่ช่วยลดการพึ่งพารหัสผ่าน PIN แบบเดิม และยังช่วยยกระดับประสบการณ์การชำระเงินให้ดียิ่งขึ้น โดย Click to Pay จะช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากในการชำระเงินเมื่อลูกค้าชอปปิงออนไลน์

ในขณะที่ Visa Payment Passkey ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลตั้งค่าครั้งแรกเพียงครั้งเดียว เพื่อยืนยันตัวตนผ่านข้อมูลไบโอเมตริกซ์กับอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง และตรวจสอบร้านค้าที่จะใช้บริการ ระบบ Visa Payment Passkey มีความปลอดภัยสูง ทั้งยังช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการชำระเงินออนไลน์ได้

ในอนาคต การใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรม ร่วมกับนโยบายรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงนโยบายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการกำกับดูแล AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างระบบการชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

เทรนด์ที่ 3: ธุรกรรมข้ามพรมแดนที่รวดเร็วขึ้นและตอบโจทย์มากกว่าเดิม

ที่ผ่านมาการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนมักเป็นการทำธุรกรรมระหว่างธุรกิจ (B2B) และดำเนินการโดยสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้ขยายขอบเขตครอบคลุมทั้งการโอนเงินระหว่างบุคคล (P2P) หรือระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การโอนเงินกลับประเทศ (Remittances) เป็นส่วนสำคัญของการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน ข้อมูลจากวีซ่ายังแสดงให้เห็นถึงการโอนเงินในรูปแบบใหม่ ๆ ในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน เช่น การจ่ายเงินให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ และการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้น โดยมีสาเหตุจากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในโลกไร้พรมแดน ส่งผลให้ความต้องการโซลูชันธุรกรรมข้ามพรมแดนที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น วีซ่าได้นำเสนอ Visa Direct โซลูชันที่สามารถเชื่อมต่อและดำเนินธุรกรรมข้ามพรมแดนได้แบบเรียลไทม์ มีความปลอดภัย และสามารถเชื่อมต่อกับปลายทางการชำระเงินได้มากกว่า 7,000 ล้านจุดทั่วโลก ไม่ว่าจะผ่านบัตร ผ่านบัญชีธนาคาร หรือดิจิทัลวอลเล็ต เป้าหมายสำคัญของวีซ่า คือการสร้างพันธมิตรและขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

เทรนด์ที่ 4: การชำระเงินแบบเรียลไทม์เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ (Real-Time Payments หรือ RTP) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก และคาดว่าจะมีมูลค่ารวมสูงถึง 58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่ซับซ้อน ภารกิจสำคัญของหน่วยงานกำกับดูแล ผู้กำหนดนโยบาย และอีโคซิสเต็มการชำระเงินโดยรวม คือการสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับมาตรการป้องกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นกับการชำระเงินแบบเรียลไทม์ ที่เป็นการดำเนินการขึ้นทันทีและไม่สามารถย้อนขั้นตอนกลับได้  วีซ่าให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นอันดับแรก จึงออกโซลูชัน Visa Protect สำหรับระบบการชำระเงินระหว่างบัญชี (A2A) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงในเครือข่าย RTP พร้อมกับระบุพฤติกรรมที่อาจเป็นการฉ้อโกงได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ ความสามารถในการทำงานร่วมกันของระบบ (Interoperability) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสนับสนุนการค้าและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เราเห็นแนวโน้มที่ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ ที่ยังมีอยู่ในระบบปัจจุบัน ในอนาคต เทรนด์เหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิธีการชำระเงินของทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ให้เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ปลอดภัย และครอบคลุมยิ่งขึ้น สำหรับทุกคน ทุกที่ ทั่วโลก

- 030 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • KBTG เปิดกลยุทธ์ AI 5+1 ขับเคลื่อนองค์กรด้วย Agentic AI เสริมศักยภาพ KBTG เปิดกลยุทธ์ AI 5+1 ขับเคลื่อนองค์กรด้วย Agentic AI เสริมศักยภาพ
  • หนุนสตาร์ทอัพ AI เจาะตลาดเทคอาเซียน หนุนสตาร์ทอัพ AI เจาะตลาดเทคอาเซียน
  • จิตตะ เวลธ์ ชี้ AI Market Prediction ยังล็อกเป้าหุ้นจีน จิตตะ เวลธ์ ชี้ AI Market Prediction ยังล็อกเป้าหุ้นจีน
  • Disrupt Health Impact Fund ขยายการลงทุนใน ‘Jona’ Disrupt Health Impact Fund ขยายการลงทุนใน ‘Jona’
  • FWD เปิดตัว Agent Guru ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะตัวแทนประกันชีวิต FWD เปิดตัว Agent Guru ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะตัวแทนประกันชีวิต
  • SCB Academy เปิดโครงการ ‘AFAST Smart Project’ ยกระดับศักยภาพคนไทย SCB Academy เปิดโครงการ ‘AFAST Smart Project’ ยกระดับศักยภาพคนไทย
  •  

Breaking News

เปิดภาพ'ฮุนเซน'นั่งห้องแอร์จิบกาแฟ-น้ำแร่หรู เทียบ'ชาวเขมร'หิ้วถุงพลาสติกรับแจกผักต้ม

เจอหลักฐานใหม่!! 'อ.ปริญญา'ชี้'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต'ละเมิดรัฐธรรมนูญตัวเอง

ยึด'อะโวคาโด-ผลไม้อบแห้ง'เถื่อน! มูลค่ากว่า 6 แสนบาท

เตือนภัยสุขภาพ! 'เก๋ ชลลดา'ป่วยไวรัสเริมขึ้นสมอง หลังปวดหัวรุนแรง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved