นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมิถุนายน 2568 ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายน 2568 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 อย่างไรก็ดีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศชะลอตัวลง ทั้งนี้ยังจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในด้านต่างๆอย่างใกล้ชิดต่อไป
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่และปริมาณรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ในเดือนมิถุนายน 2568 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 3.0% และ 6.3% ตามลำดับ แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ -3.6% และ -3.2% ตามลำดับ ขณะที่รายได้เกษตรกรที่แท้จริงในเดือนมิถุนายน 2568 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -6.2% และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือนมิถุนายน 2568 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 52.7 จากระดับ 54.2 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า รวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนมิถุนายน 2568 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 32.0% แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ -4.9% ขณะที่ปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมิถุนายน 2568 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -7.6% และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ -1.2% สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนมิถุนายน 2568 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -0.3% แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 2.3%
ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 15.5% ตามการขยายตัวของสินค้าในหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง น้ำตาลทราย ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป อย่างไรก็ตามการส่งออกข้าว รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ ปรับตัวลดลง ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน โดยเฉพาะบริการด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยในเดือนมิถุนายน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวมจำนวน 2.32 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -15.2% แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 0.1% ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยมีจำนวน 21.7 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2.8% ขณะที่ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนมิถุนายน 2568 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 10.1% สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมิถุนายน 2568 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 87.7 จากระดับ 88.1 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของไทย ในเดือนมิถุนายน 2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.7 จากระดับ 51.2 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น
สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ -0.25% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.06% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 65.1% ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 และเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 262.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี