ค่ายเอ็มจี เดินเกมรุก เปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ รถยนต์ไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด จากสายการผลิตในประเทศไทย ชูจุดขายด้วยดีไซน์โกลบอล สปอร์ตโฉบเฉี่ยว และระบบขับเคลื่อนไฮบริด HYBRID+ ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างลงตัว มอบทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ วิ่งได้ไกลกว่า 800 กม.
ALL NEW MG3 HYBRID+ โกลบอลโมเดล รุ่นที่ 2 จากเอ็มจี มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ล่าสุด ในรูปแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู โดดเด่นด้วยระบบ HYBRID+ ที่รวม 8 โหมดการขับขี่ไว้ในคันเดียว รองรับทั้งการขับเคลื่อนแบบ Series Hybrid, Parallel Hybrid และโหมดไฟฟ้าล้วน (Pure EV) ขับขี่นุ่มนวล ตอบสนองได้หลากหลายทุกสภาพการใช้งาน
ดีไซน์ภายนอกโฉบเฉี่ยว สไตล์แฮทช์แบ็กที่คล่องตัว ด้วยมิติตัวรถที่กว้างที่สุดในคลาส (1,797 มม.) ไฟหน้า LED Hunter Eye Headlamp แบบใหม่ พร้อมกระจังหน้าใหม่ และไฟท้าย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ ให้ภาพลักษณ์ที่ปราดเปรียวทุกมุมมอง ขณะที่ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้ Modular Concept เน้นวัสดุคุณภาพสูง คอนโซลเล่นระดับเพิ่มมิติ ความหรูหราด้วยภายในทูโทนขาว-ดำ พร้อมพื้นที่ Head room และ Leg room ที่กว้างขวาง ห้องเก็บสัมภาระจุได้ถึง 293 ลิตร และขยายได้สูงสุด 1,037 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ หน้าจอแสดงผลดิจิทัล ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสัมผัสกลาง 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมกุญแจอัจฉริยะ Smart Key ที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกและล้ำสมัยยิ่งขึ้น เป็นต้น
ในการทดสอบ ALL NEW MG3 HYBRID+ ต้องยอมรับถึงจุดเด่น ที่แตกต่างอย่างชัดเจน ทั้งในด้านความประหยัด ความสนุกในการขับขี่และอัตราเร่งที่เร้าใจกว่าที่เคย ด้วยประสบการณ์การขับขี่แบบรถไฟฟ้า แต่ไม่ต้องรอชาร์จไฟ ด้วยขุมพลังไฮบริดรุ่นใหม่ ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร (102 แรงม้า / 75 กิโลวัตต์) รองรับน้ำมัน E20 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ให้การเร่งแซงที่ตอบสนองฉับไว
โดยตามเสปกระบุไว้ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 8 วินาที ระบบขับเคลื่อน Hybrid Transmission เกียร์ไฟฟ้า E-AT เปลี่ยนจังหวะได้แม่นยำ ลดเสียงรบกวน และช่วยประหยัดเชื้อเพลิง เสริมด้วยช่วงล่าง BRIT DYNAMIC ที่หนึบแน่น เข้าโค้งมั่นใจ พวงมาลัยคมแม่นยำ เติมเต็มสมรรถนะในการขับขี่ มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion ความจุ 1.83 kWh ช่วยให้รถวิ่งได้ไกลกว่า 800 กม.ต่อถังน้ำมัน ตอกย้ำความเป็นรถไฮบริด ที่ตอบโจทย์ ทั้งสมรรถนะและความคุ้มค่า
ALL NEW MG3 HYBRID+ รองรับโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Standard และ Sport ให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ พร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) เหมือนในรถไฟฟ้า สามารถปรับระดับการหน่วงพลังงานขณะชะลอรถได้ 3 ระดับ ช่วยหน่วงความเร็ว และ ชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ ขณะเบรก หรือ ชะลอความเร็ว เสริมประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานอย่างชาญฉลาด
ด้านระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ครอบคลุมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ADAS ถึง 8 ระบบ ช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ พร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System) และ กล้องมองภาพรอบคันแบบ High Definition 360 องศา ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย และเพิ่มความมั่นใจด้วยการรับประกันตัวรถ และระบบไฮบริดนาน 6 ปี หรือ 140,000 กม. รวมถึง รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
โดยสรุปแล้ว ALL NEW MG3 HYBRID+ คืออีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่น ผสานเทคโนโลยีไฮบริดรุ่นล่าสุด ให้ทั้งความแรง และความประหยัดในคันเดียว ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 579,900 บาท ใครที่กำลังมองหารถแฮทช์แบ็กไฮบริด ประสิทธิภาพสูง ควรลองขับก่อนตัดสินใจ!
และล่าสุด เอ็มจีได้เปิดตัวกิจกรรม #MG3SAVESAVE ซีซั่น 2 ชวนเจ้าของรถและผู้สนใจร่วมพิสูจน์สมรรถนะและความประหยัด เพียงถ่ายภาพหน้าจอแสดงอัตราสิ้นเปลือง จากการขับขี่ระยะทาง 100 กม. หรือ 500 กม. ขึ้นไป แล้วโพสต์รีวิว หรือ ความประทับใจลงบน Facebook แชร์ในกลุ่ม MG3 Hybrid Club Thailand ติดแฮชแท็ก #MG3SAVESAVE ลุ้นรับรางวัล Lucky Draw และ Content Creator หมดเขต 6 ต.ค. 2568
นิติ โมราวรรณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี