นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (3 สิงหาคม 2568) ตน พร้อมด้วยนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารระดับสูงและอธิบดีกรมต่าง ๆในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา
โดยคณะได้เข้าเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอเดชอุดม ซึ่งรองรับประชาชนกว่า 1,000 คน ที่อพยพมาจากอำเภอน้ำขุ่น และอำเภอน้ำยืน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ศูนย์พักพิงทั้ง 2 แห่ง ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางกระจายสิ่งของจำเป็นไปยังศูนย์อพยพอื่นๆในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือเข้าถึงทุกครัวเรือนที่ประสบปัญหา
ในโอกาสนี้ตนและนายฉันทวิชญ์ ได้มอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด ซึ่งบรรจุสิ่งของจำเป็นสำหรับการดำรงชีพในระยะเร่งด่วน พร้อมพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ รับฟังปัญหา และให้กำลังใจผู้ประสบภัยที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์อันยากลำบาก
นายจตุพร กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่สามารถกลับไปอาศัยในพื้นที่ชายแดนได้ พร้อมสั่งการให้ อธิบดีกรมการค้าภายใน เร่งจัดหาสิ่งของจำเป็นดูแลความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยให้เพียงพอและทั่วถึง
อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญอีกด้านคือ ผลกระทบต่อผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน ทั้งภาคเกษตรกรรมและการค้า ซึ่งได้รับผลกระทบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ กระทรวงพาณิชย์จึงเตรียมมาตรการช่วยเหลือในหลายด้าน เช่น การจัดทำซอฟต์โลน เพื่อเสริมสภาพคล่อง การหาตลาดใหม่ทดแทนตลาดที่ได้รับผลกระทบ การกระจายสินค้าจากพื้นที่ชายแดนไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ และการเจรจาหาเส้นทางโลจิสติกส์ที่สะดวกและลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ
สำหรับสินค้าเกษตร โดยเฉพาะมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของอุบลราชธานี ปัจจุบันราคาต่ำกว่าปีก่อนประมาณ 10% แม้ปริมาณส่งออกจะมากขึ้น กระทรวงพาณิชย์จึงประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิต จัดหาท่อนพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพ ต้านทานโรคใบด่าง พร้อมส่งเสริมการแปรรูปเป็นอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อลดปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งวางมาตรการลดต้นทุนปุ๋ย ยา และค่าแรง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งหาตลาดใหม่สำหรับสินค้าไทย และดำเนินมาตรการเพื่อลดการสูญเสียรายได้จากการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งปัจจุบันหายไปวันละกว่า 400–500 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นทั้งการรักษาตลาดเดิมและขยายตลาดใหม่ เพื่อให้เศรษฐกิจชายแดนกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว
“นโยบายที่ผมให้กับกระทรวงพาณิชย์คือ ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย เราต้องช่วยกันกระจายสินค้าจากพื้นที่ชายแดนไปสู่ตลาดทั่วประเทศ เพื่อให้คนไทยช่วยกันอุดหนุนสินค้าของคนไทย และที่สำคัญคนไทยจะต้องไม่ทิ้งกัน”นายจตุพร กล่าว
โดยในช่วงบ่ายตนและคณะจะประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน ณ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนเดินทางไปเยี่ยมและมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
0-33
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี