ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (Population and Community Development Association - PDA) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (National Innovation Agency - NIA) และบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด จัดโครงการประกวดโครงงานสิ่งประดิษฐ์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ภายใต้ชื่อโครงการใหม่ ‘Ford Smart Mobility Challenge’ เดินหน้ายกระดับทักษะการพัฒนานวัตกรรมของเยาวชนไทย ให้ต่อยอดใช้ได้จริง และเกิดความเชื่อมโยงกับชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย ชิงทุนการศึกษาจำนวน 12 ทุน มูลค่ารวม 840,000 บาท
“ฟอร์ดเชื่อว่า เยาวชนคือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง และนวัตกรรมคือพาหนะสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา โครงงานประกวดสิ่งประดิษฐ์นี้ได้จุดประกายและสนับสนุนศักยภาพของเยาวชนนวัตกรไทยอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ ซึ่งนับเป็นก้าวแรกของทศวรรษใหม่ของโครงการ เราได้ปรับชื่อจาก Ford Innovator Scholarship เป็น ‘Ford Smart Mobility Challenge’ เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจหลักของฟอร์ด ฟิแลนโธรพี ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านการขับเคลื่อนในหลากหลายมิติ โดยโครงการนี้ยังสอดคล้องกับโครงการระดับโลกที่ฟอร์ด ฟิแลนโธรพีดำเนินการร่วมกับสถาบันการศึกษาในหลายประเทศ เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชุมชนทั่วโลก จึงขอเชิญชวนน้องๆ ที่สนใจ มาร่วมส่งไอเดียเข้าประกวด เพื่อสร้างอนาคตของการเดินทางไปด้วยกัน” เจน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการฟอร์ด ฟิแลนโธรพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว
สำหรับปี 2568 โครงการ Ford Smart Mobility Challenge จะจัดขึ้นในหัวข้อ ‘ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่ออนาคตของการเดินทาง (Driving Innovation to Power the Future of Movement)’ เปิดรับแนวคิดนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่ตอบโจทย์แนวคิดการเคลื่อนที่ (Mobility) 3 ด้าน ที่นำไปต่อยอดได้จริงและส่งผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคม ได้แก่ นวัตกรรมด้านการเข้าถึงและส่งเสริมความหลากหลาย (Mobility | Access and Inclusion) นวัตกรรมด้านความปลอดภัย (Mobility | Danger and Safety) และนวัตกรรมด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ (Mobility | Wellbeing) โดยโครงการ Ford Smart Mobility Challenge ยังคงเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 15-25 ปี ร่วมส่งผลงานเข้าแข่งขัน ได้แก่ ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา อุดมศึกษา และเยาวชนในระบบการศึกษานอกโรงเรียน โดยเกณฑ์การพิจารณาหลักจะให้ความสำคัญเรื่องของศักยภาพในการต่อยอดเป็นผลงานจริงเพื่อส่งมอบประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม ร่วมกับการพิจารณาในเรื่องรูปแบบผลงานและการนำเสนอ
ทีมนักเรียน นักศึกษาที่ผ่านเข้ารอบ จะได้เข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฟอร์ด และผู้เชี่ยวชาญจากทีวีบูรพา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล วิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ต้องเสริมเพิ่ม ซึ่งจะช่วยพัฒนาผลงานสิ่งประดิษฐ์อย่างเข้มข้น ให้ต่อยอดไอเดียเป็นชิ้นงานที่สร้างประโยชน์แก่ชุมชนและสังคมได้จริง นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้แนวทางการเชื่อมโยงผลงานกับชุมชน ทักษะการคิดแบบผู้ประกอบการธุรกิจ รวมถึงทักษะการนำเสนอผลงานอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการ Ford Smart Mobility Challenge จะมอบทุนการศึกษาแก่ผู้ชนะในรอบสุดท้าย จำนวน 12 ทุน และทุนสนับสนุนการพัฒนาโครงงานสำหรับสถาบันการศึกษา จำนวน 4 ทุน รวมทั้งสิ้น 840,000 บาท มีรายละเอียดดังนี้
รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ รวมมูลค่า 200,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 รวมมูลค่า 140,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รวมมูลค่า 110,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 รวมมูลค่า 80,000 บาท
รางวัลชมเชย 6 รางวัล รวมมูลค่า 240,000 บาท
รางวัลพิเศษ: Social Popular Vote
รางวัลพิเศษ: Best of Team Work
นักเรียน นักศึกษา ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา อุดมศึกษา และเยาวชนที่อยู่ในระบบการศึกษานอกระบบ อายุระหว่าง 15-25 ปี ที่สนใจ สามารถส่งผลงานได้ทีมละไม่เกิน 5 คน โดยสมัครได้ 2 ทาง ได้แก่
https://forms.gle/uNijwNeGeWtpxzFR8
ประกาศผลงานที่เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายในวันที่ 3 ตุลาคม 2568 และนำเสนอผลงานเพื่อค้นหาทีมผู้ชนะ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2568 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณปัณฑรีย์ดา เจิมไทย (แบงค์) เบอร์โทรศัพท์ 086-511-0289
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี