นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีราคาผู้ผลิตของไทย เดือนกรกฎาคม 2568 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2567 หดตัวจากราคาสินค้าในทุกหมวด โดยราคาสินค้าหมวดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร จากอุปทานส่วนเกินในประเทศ ประกอบกับการแข่งขันที่สูงในตลาดส่งออก หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มีทิศทางเคลื่อนไหวตามอุปสงค์ของตลาดโลกที่ชะลอตัว ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
“การที่ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนกรกฎาคม 2568 ปรับตัวลดลงในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เป็นผลจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1.การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดส่งออกสินค้าเกษตร ต้นทุนการผลิตในภาพรวมที่ลดลงตามราคาพลังงานที่ต่ำกว่าปีก่อน 2.ค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง 3.การแข่งขันด้านราคาจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกรายสำคัญ 4.กำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอตามสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ทั้งนี้ควรเร่งยุติสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน เพื่อฟื้นฟูการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ไปพร้อมกับการขยายตลาดใหม่เพิ่มเติม เพื่อชดเชยภาคการส่งออกที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐ”นายพูนพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนกรกฎาคม 2568 เท่ากับ 108.5 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2567 ลดลง 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลจากการลดลงของราคาสินค้า หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลง 10.2% จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว จากฐานราคาของปีก่อนที่สูง ประกอบกับการส่งออกในปีนี้หดตัวค่อนข้างมาก อ้อย จากฐานราคาของปีก่อนที่สูง ประกอบกับมีปริมาณผลผลิตมาก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากปริมาณผลผลิตที่มากขึ้นกว่าปีก่อนตามสภาพอากาศที่เหมาะสม หัวมันสำปะหลังสด จากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญที่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามความต้องการที่ลดลงในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ยางพารา ราคาลดลงตามการชะลอคำสั่งซื้อของตลาดปลายทาง พืชผัก (มะนาว พริก กระเทียม) จากปริมาณผลผลิตที่มากขึ้นกว่าปีก่อนตามสภาพอากาศที่เหมาะสม ผลไม้ (ทุเรียน ลำไย) จากราคาส่งออกที่หดตัวค่อนข้างมากตามคุณภาพผลผลิตที่ลดลง และ โคมีชีวิต จากความต้องการบริโภคที่ลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหน้าฟาร์มลดลง ขณะที่สินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย ผลปาล์มสด จากปริมาณผลผลิตในตลาดโลกที่มีน้อย ในขณะที่ความต้องการสินค้าเพิ่มจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ สุกรมีชีวิต จากต้นทุนการควบคุมโรคที่สูงขึ้น ประกอบกับความต้องการบริโภคปรับตัวดีขึ้น และกุ้งแวนนาไม จากปริมาณผลผลิตที่ลดลงจากต้นทุนการเพาะเลี้ยงที่สูงขึ้น
ส่วนหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลง 11.2% จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก สินแร่โลหะ (แร่เหล็ก ดีบุก สังกะสี) จากอุปสงค์ชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ได้จากการทำเหมือง (เกลือสมุทร) จากผลผลิตที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปริมาณความต้องการชะลอตัวลงส่งผลให้ราคาปรับลดลง และหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลง 2.8% จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา น้ำมันก๊าด ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และน้ำมันหล่อลื่น เนื่องจากเคลื่อนไหวตามทิศทางราคาตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า แผงวงจรพิมพ์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำและวงจรรวม Integrated Circuit (IC) อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และอุปกรณ์รับข้อมูล/แสดงผล
ส่วนแนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนสิงหาคม 2568 มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญจาก 1.สินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ มีแนวโน้มเข้ามาเพิ่มขึ้นจากการระบายสินค้าอุปทานส่วนเกินของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ กดดันราคาสินค้าของผู้ผลิตในประเทศ 2.การปรับลดราคาสินค้าส่งออกชดเชยอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐ เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิต 3.อุปสงค์ของตลาดปลายทางในภาพรวมที่ลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการแข่งขันที่สูงขึ้นในการหาตลาดปลายทางใหม่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออก กดดันราคาสินค้าในภาคการส่งออก 4.อุทกภัยทางภาคเหนือ ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ และ 5.ความขัดแย้งบริเวณชายแดน ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งการค้าชายแดน การค้าผ่านแดน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่โดยรอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี