ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2568 บริษัทกวาดรายได้ค่าผ่านทาง 622.71 ล้านบาท กำไรสุทธิ 240.32 ล้านบาท โดยยังคงเป้ารายได้ปี 2568 นี้เติบโต 10% สอดคล้องแผนและกลยุทธ์ New Business Venture  พร้อมเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐ โครงการทางหลวงพิเศษ M82, M5 และจุดพักรถริมทางหลวง สร้าง New S-Curve พร้อมส่งบริษัทลูก “เอ สยาม อินฟรา”- “แอลฟา ดี เอ็ม เทค” รุกงานวิศวกรรมในงานให้บริการซ่อมแซม โครงสร้างพื้นฐาน ระบบการชำระเงินดิจิทัล และระบบจราจร–ความปลอดภัย หนุนธุรกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568) มีรายได้จากค่าผ่านทางและจากการให้บริการซ่อมโครงสร้างพื้นฐานและขายสินค้าที่เกี่ยวข้อง รวม 626.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.13 ล้านบาท หรือ 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 240.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.86 ล้านบาท หรือ 2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ในไตรมาส 2/2568 มีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันรวมอยู่ที่ 101,404 คัน

“บริษัทยังคงสามารถรักษาเป้าหมายรายได้และกำไรได้ตามแผนท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจและปัจจัยภายนอก ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการบริหารต้นทุน การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด และการดำเนินกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนในระยะยาว โดยบริษัทมั่นใจว่า รายได้รวมในปี 2568 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ก่อน”ดร.ศักดิ์ดา กล่าว

โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยไม่มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (DE Ratio) ในอัตรา 0.08 เท่า ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ  มีวงเงินทุนหมุนเวียนที่ยังไม่ได้เบิกใช้จำนวน 2,200 ล้านบาท

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.44 บาท คิดเป็น Payout Ratio 101.27% ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 519.74 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนแรก ในอัตราหุ้นละ 0.22 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 259.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ดังนั้นบริษัทจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 ส่วนที่เหลือ ในอัตราหุ้นละ 0.22 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 259.87 ล้านบาท โดยกำหนดขึ้น XD วันที่ 21 สิงหาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2568

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 3/2568 บริษัทคาดว่าจะยังสามารถรักษาระดับรายได้ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน โดยยังคงมีแรงหนุนจากการเดินทาง และการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่การเดินหน้าธุรกิจใหม่ด้านวิศวกรรมและระบบจราจรโดยบริษัทย่อย เริ่มมีบทบาทเสริมรายได้ในระยะยาว

ส่วนปริมาณจราจรเฉลี่ยในไตรมาส 2/2568 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าและจากปีก่อน สาเหตุหลักจากปัจจัยฤดูกาลช่วงสงกรานต์ และผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ รวมถึงการชะลอตัวของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐฯ มีความคืบหน้า และเที่ยวบินต่างประเทศมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่าปริมาณจราจรจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

“แผนการดำเนินงานในปี 2568 นี้ บริษัทยังให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการขับเคลื่อนกลยุทธ์ New Business Venture ซึ่งเป็นหนึ่งใน 7 กลยุทธ์หลักของบริษัท เพื่อสร้างความยั่งยืนและลดการพึ่งพารายได้จากค่าผ่านทางเพียงแหล่งเดียว โดยเตรียมความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐที่มีศักยภาพ อาทิ โครงการทางหลวงพิเศษ M82, M5 และจุดพักรถริมทางหลวง ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนของภาครัฐที่มีแนวโน้มเปิดประมูลในอนาคตอันใกล้”ดร.ศักดิ์ดา กล่าว

นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการดำเนินธุรกิจตาม 7 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาและบำรุงรักษาทางที่มีประสิทธิภาพสูง การเติบโตไปพร้อมพันธมิตร การขยายรายได้ที่ไม่ใช่ค่าผ่านทาง การนำ ESG เข้าสู่กระบวนการดำเนินงาน การสร้าง Smart Working Place การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการสร้างความเชื่อมั่นผ่านการรับรู้แบรนด์ (DMT Excellence Recognition) ด้วยประสบการณ์บริหารโครงสร้างพื้นฐานกว่า 30 ปี พร้อมมาตรฐานการดำเนินงานระดับสากล และความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหาร บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคง แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน

-033