วันอังคาร ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ดีอี หนุนภาคผลิตใช้เทคโนโลยีดิจิทัล - เอไอ ลดต้นทุนเพิ่มขีดแข่งขันอุตฯไทย

ดีอี หนุนภาคผลิตใช้เทคโนโลยีดิจิทัล - เอไอ ลดต้นทุนเพิ่มขีดแข่งขันอุตฯไทย

วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 12.31 น.
Tag : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดิจิทัล ดีอี เทคโนโลยี เอไอ
  •  

นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี)  กล่าวภายหลังการเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่ 2 (Workshop#2) ในหัวข้อ “การขับเคลื่อนประเทศสู่ความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลระดับโลก : Driving A Nation Towards world Digital Competitiveness” จัดโดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)   ว่า เป้าหมายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ภายในปี 2570 จะมีมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(Gross Domestic Products : GDP) และไต่ระดับความสามารถในการแข่งขัน ด้านดิจิทัลในอันดับที่ 30 จากปัจจุบันที่เศรษฐกิจดิจิทัล คิดเป็นสัดส่วน 24% ของ GDP ได้รับการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ปี 2568 จาก IMD (International Institute for Management Development) อยู่ในอันดับที่ 37 ลดลง 2 อันดับ จากอันดับที่ 35 ในปี 2567 ในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยเพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ในปี 2570 นั้น

นายณัฐพล กล่าวว่า กระทรวงดีอี มีแผนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลใน 6 ด้านหลักด้วยกันคือ 1. การลงทุนในเรื่องของระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล (Capital and Investment)  2.การพัฒนาอัตลักษณ์ด้านดิจิทัล (Digital Identity) 3. การพัฒนาระบบดิจิทัล (Digital Infrastructure) 4. การพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) 5.การพัฒนาระบบอี-คอมเมิร์ซ  (Digital Payment and  Cashless Society) และ 6.การนำดิจิทัลไปเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิต รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล ตามเกณฑ์ในการพิจารณาของ IMD


นายณัฐพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ในประเทศไทย ภาคเอกชนจะมีบทบาทในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว โดยมีการลงทุนเป็นจำนวนมาก จากการให้บริการของบริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยี ขณะที่ภาครัฐจะมุ่งเน้นเรื่องการวางระบบเพื่อเชื่อมต่อกับต่างประเทศ โดยในฝั่งแปซิฟิกในส่วนของ Cable Submarine เพื่อเชื่อมโยงระบบกับต่างประเทศ และ มีแผนที่จะพัฒนาในส่วนของ Cable Submarine ส่วนในฟากอันดามัน รัฐบาลอาจจะต้องใช้เงินลงทุนราว  5,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อเชื่อมต่อกับต่างประเทศ สนับสนุนกับการลงทุนระบบเครือข่ายของภาคเอกชนภายใต้โครงการ ระบบคราวด์กลางภาครัฐ  หรือ Government Data Center and Cloud (GDCC) โดยการรวมศูนย์ข้อมูล (Data Center)ของหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยเข้ามาใช้งานร่วมกัน ที่พัฒนาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2565-2568 กรอบงบประมาณราว 5,000 ล้านบาท สร้าง Data Center แล้วเสร็จแล้ว 45,000 VM (Virtual Machine )จากที่ต้องใช้ประมาณ 800,000 VM สำหรับการจัดทำข้อมูล GDCC ให้ครอบคลุมกับทุกหน่วยงานของไทย

ขณะเดียวกัน ยังเร่งผลักดันให้หน่วยงานราชการ ปรับการทำงานใหม่ ในรูปแบบ E-Document หรือ Paperless office ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานรัฐ 65 แห่งปรับการทำงานมาสู่รูปแบบ E-Document เรียบร้อยแล้ว มีผู้ใช้รวมกว่า 90,000 users  ขณะที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีผู้ใช้กว่า 78,000 users  และตั้งเป้าภายในปี 2570 จะผลักดันให้หน่วยงานรัฐ ปรับการทำงานมาเป็นรูปแบบ E-Document ทั้งหมดหรือมากที่สุด

“ในปีงบประมาณปี 2569 กระทรวงฯจะเร่งขับเคลื่อน 3 เรื่องหลักสู่ Digital Government ในปี 2569-2570 คือE-Document  ระบบคราวด์กลางภาครัฐ   GDCC และ ความปลอดภัย Cyber Security โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ AI  ในการพัฒนา ปรับปรุงการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภาคอุตสาหกรรม โดยนำ AI มาพัฒนา  สร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI  โดยกำหนดเป้าหมายภายในปี 2571 จะมีประชากรไทยเข้าถึงเทคโนโลยี AI ไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน มีผู้เชี่ยวชาญ(Professional) ไม่น้อยกว่า 90,000 คน และ สร้างผู้พัฒนาเทคโนโลยีเอไอ (AI Developer) ไม่น้อยกว่า 50,000 คน ภายใต้กรอบงบประมาณ 20,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ” นายณัฐพล กล่าว
“แม้ว่าปัจจุบันเรามีเทคโนโลยี 5G แต่ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้ ในการพัฒนากระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ถ้าสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI  ไปใช้ในการพัฒนาภาคการผลิต อุตสาหกรรม และ SMEs จะช่วยลดต้นทุนธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและ สร้างรายได้เพิ่มขึ้น” นายณัฐพล กล่าว

ด้านศาสตราจารย์อาร์ทูโร บริส ผู้อำนวยการ สถาบัน IMD World Competitiveness Center ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวบรรยาย หัวข้อ “Vision the Digital Future” ว่า ประเทศไทย มีการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัล และ AI  มีความสามารถในการแข่งขัน ในอันดับ 37 ในปี 2568 ลดลงจากอันดับที่ 35 ในปี 2567 ซึ่งการใช้งานส่วนใหญ่ของไทยจะอยู่ที่ผู้บริโภค เป็นหลัก แต่ยังไม่ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI  ไปใช้งานในภาคการผลิต และ ภาคอุตสาหกรรม

“อันดับที่ลดลงจาก 35 มาอยู่ที่ 37 มาจากอันดับด้านของเทคโนโลยี AI ของไทย มีผู้ใช้มากกว่าผู้พัฒนาเทคโนโลยี ทำให้คะแนนในส่วนนี้ ลดลงมา 8 อันดับจากอันดับ 15 อยู่ที่ 23 ในขณะที่ไทยมีคะแนนที่ดีขึ้น ในด้านความรู้และความพร้อมสำหรับอนาคต (Future Readiness)” ศาสตราจารย์ บริส กล่าว

ศาสตราจารย์ บริส กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย ถ้าเราจะพัฒนาประเทศไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เราต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากร และมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ในการขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ในทุกภาคส่วนของประเทศโดยเฉพาะในภาคการผลิตของประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม การเกษตร และ ภาคบริการ

-031

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ทรู จัดแคมเปญ ‘แอปทรูใจดี แจกรถ แจกล้าน’ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ทรู จัดแคมเปญ ‘แอปทรูใจดี แจกรถ แจกล้าน’ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
  • ดีอี ร่วมประชุม  APEC 2025ฯ ชวนต่างชาติลงทุน AI ชี้ไทยมีจุดเด่น โครงสร้างดิจิทัลแข็งแกร่ง ดีอี ร่วมประชุม APEC 2025ฯ ชวนต่างชาติลงทุน AI ชี้ไทยมีจุดเด่น โครงสร้างดิจิทัลแข็งแกร่ง
  • Whoscall ส่งแคมเปญ เปิดโปงมิจ แจกโค้ดแท้ เอาใจผู้ใช้ใหม่ แจกดีลแท้จากแบรนด์ดังกว่า 100,000 โค้ด Whoscall ส่งแคมเปญ เปิดโปงมิจ แจกโค้ดแท้ เอาใจผู้ใช้ใหม่ แจกดีลแท้จากแบรนด์ดังกว่า 100,000 โค้ด
  • บอร์ด AI แห่งชาติ ประกาศลงทุนภาครัฐขั้นต่ำ 25,000 ล้าน บอร์ด AI แห่งชาติ ประกาศลงทุนภาครัฐขั้นต่ำ 25,000 ล้าน
  • ‘ประเสริฐ’ ร่วมเปิดกิจกรรมโครงการ ODOS Summer Camp ‘ประเสริฐ’ ร่วมเปิดกิจกรรมโครงการ ODOS Summer Camp
  • จีเอเบิล ปลุกพลังนวัตกรรม AI ในองค์กร จีเอเบิล ปลุกพลังนวัตกรรม AI ในองค์กร
  •  

Breaking News

ยาบ้าของใคร? ลืมไว้ที่โอ่งน้ำติดต่อขอรับได้ที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี

‘หญิงเมืองปาน’น้ำใจงาม เก็บลอตเตอรี่กว่า 200 ใบ คืนเจ้าของ

ฟ้าหลังฝน! น่านฟื้นจากอุทกภัยพร้อมเปิดเมืองเที่ยว สัมผัสเสน่ห์ในฤดูฝน

เดือดพลั่ก!‘เดชอิศม์’อัดคลิปโวย‘สนธิ’กล่าวหา ประกาศหลัง 15 ส.ค.ไม่ชี้แจงให้ เจอที่ศาล

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved