นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,081ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,367 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 713 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 191.7% และมีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 117.4 %

ขณะที่ ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 รายได้รวม 3,774 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,990 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,784 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 111.5 % และมีกำไรสุทธิ 90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 89 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการโดยรวมเติบโตแข็งแกร่ง ผลจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการ 'เวหา หัวหิน' (VEHHA Hua Hin) และ 'นิว ดิสทริค อาร์ 9' (Nue District R9) ที่ทำผลงานได้เกินความคาดหมาย สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงซบเซา

โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจาก โครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) คิดเป็น 73% โครงการเวหา หัวหิน (VEHHA Hua Hin)  25% และ โครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station) 2% สะท้อนถึงความสำเร็จของโครงการสำคัญในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ ประกอบกับ ประสิทธิภาพของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นคุณภาพของโครงการและการบริหารจัดการต้นทุนอย่างรอบคอบ

นอกจากนี้ โครงการ รมย์ คอนแวนต์ (ROMM Convent)  Luxury Wellness Residences หนึ่งเดียวใจกลางสาทร ยังคงมียอดขายต่อเนื่องแล้วกว่า 80% แม้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อโครงการ ที่มอบทั้งคุณภาพการอยู่อาศัยและมูลค่าที่เติบโตอย่างยั่งยืน

โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568  บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวม 7,709 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง ไปจนถึงปี 2569 สร้างความต่อเนื่องของรายได้ พร้อมเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงิน และเพิ่มศักยภาพการลงทุนโครงการใหม่ของบริษัทฯ ในอนาคต

“แม้ภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯ จะยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ แต่ PROUD ยังคงมุ่งพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์กลุ่มเรียลดีมานด์ในแต่ละทำเล ตามแนวคิด ‘ALL IS WELL – เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน’ พร้อมบริหารจัดการธุรกิจอย่างรอบคอบเพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว

ทั้งนี้  บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ กลุ่ม Mid–High Segment ซึ่งมีกำลังซื้อ รายได้มั่นคงและได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ และกลุ่มเรียลดีมานด์ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต พื้นที่ใช้สอย และฟังก์ชันการอยู่อาศัยมากกว่าราคา ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์และกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทฯ” นายพสุ กล่าว

- 030