นายรัฐพล ภักดีภูมิ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทยเตรียมเสนอปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนกันยายน 2568 อย่างไรก็ตามยอมรับว่าในปี 2567 ไปรษณีย์ไทยยังขาดทุนอยู่ แต่คาดว่าหลังจากที่ได้รับนโยบายจากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มาดำเนินการจะทำให้ไปรษณีย์ไทยกลับมามีกำไรได้ในปี 2568
ทั้งนี้นโยบายที่ไปรษณีย์ไทยได้รับมอบ ประกอบด้วย 1.การทำระบบจ่าหน้าแบบดิจิทัล (DID) ด้วยการใช้รหัส 6 หลักแทนการจ่าหน้าซอง โดยให้สามารถใช้ได้ในปี 2568 ซึ่งรหัสจะใช้แทนข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อ ที่อยู่ และเบอร์ติดต่อ จากปกติจะต้องเขียนลงจ่าหน้าซองเพื่อนำส่ง 2.การสนับสนุนธุรกิจขนาดการและขนาดย่อม (SMEs) โดยใช้แพลตฟอร์มระบบขนส่งของไปรษณีย์ไทย เพื่อสร้างมาร์เก็ตเพลสช่วยเหลือธุรกิจผู้ประกอบการกลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ในปี 2567 ไปรษณีย์ไทยมีรายได้รวม 20,993 ล้านบาท โดยขาดทุน 186 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนจากการดำเนินงานด้านนโยบาย ค่าใช้จ่ายและการลงทุนต่างๆ ส่วนครึ่งปีแรก 2568 มีรายได้รวม 11,544 ล้านบาท สามารถพลิกกลับมาทำกำไรสุทธิ 631.56 ล้านบาท โดยรายได้เติบโตถึง 8.88% และกำไรสุทธิเติบโต 362.34% ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้สูงสุด คือ กลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ คิดเป็น 46.83% ของรายได้รวม 5,406 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.56% จากช่วงเดียวกันของปี 2567
“ครึ่งปีหลัง 2568 เราพยายามจะกลับมาทำให้มีกำไร และสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ว่าจะมีรายได้รวมในปี 2568 อยู่ที่ 22,500 ล้านบาท เติบโต 7% จากปี 2567 ด้วยการพัฒนาโปรดักส์ให้เป็นดิจิทัลภายในปี 2568”ดร.ดนันท์ กล่าว
นอกจากนี้ในวาระครบรอบ 142 ปี ไปรษณีย์ไทยจะขับเคลื่อนองค์กรด้วยกลยุทธ์ “1-4-2” โดย 1 คือการเป็นขนส่งอันดับ 1 ของคนไทย ที่โดดเด่นทั้งคุณภาพบริการตั้งแต่ระบบรับฝาก ส่งต่อ และนำจ่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังยกระดับองค์กรสู่การเป็น Tech Post อย่างเต็มรูปแบบด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ
4 คือ 4 พลังขับเคลื่อนองค์กร ได้แก่ (พลังความเร็ว) ที่มุ่งส่งมอบการให้บริการที่รวดเร็ว แม่นยำ, (พลังเพื่อธุรกิจ) ที่ออกแบบโซลูชันรองรับตั้งแต่ผู้ประกอบการรายเล็กถึงรายใหญ่, (พลังเชื่อมโลก) ที่พร้อมพาธุรกิจไทยเติบโตได้ครอบคลุม 205 ปลายทาง 193 ประเทศ และ(พลังความล้ำ) ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมใหม่มาปรับใช้ในการพัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์โครงสร้างเศรษฐกิจ
ขณะที่ 2 คือ 2 แกนหลักที่เป็นผู้เชื่อมทั้งความสัมพันธ์และความสำเร็จ มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจพร้อมกับดูแลสังคมอย่างยั่งยืน ภายใต้ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้นำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในระบบงาน มุ่งดำเนินงานด้าน Circular Economy ผลักดันโครงการ Green Hub ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร, ด้านสังคม มุ่งเน้นการสร้างชุมชนที่ยั่งยืน ด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ ,ด้านธรรมาภิบาลและการกำกับดูแล ที่มุ่งเน้นการให้ความสำคัญในเรื่องการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี