บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) ในฐานะผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงินและการโอนเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย ได้เปิดเผยสถิติการใช้งานระบบ พร้อมเพย์ (PromptPay) ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของบริการชำระเงินดิจิทัลในการผลักดันประเทศไทยสู่ “สังคมไร้เงินสด” ที่ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ยอดการลงทะเบียนและธุรกรรมยังขยายตัวต่อเนื่อง

ข้อมูล ณ สิ้นเดือน กรกฎาคม 2568 ระบุว่ามีการลงทะเบียนหมายเลข พร้อมเพย์ทั้งสิ้น 81.67 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็น การลงทะเบียนของภาคประชาชน 81.30 ล้านเลขหมาย การลงทะเบียนของภาคธุรกิจ 0.37 ล้านเลขหมาย

ยอดธุรกรรมผ่านระบบพร้อมเพย์ในเดือนกรกฎาคม 2568 อยู่ที่ 2.22 พันล้านรายการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 1.95 พันล้านรายการ คิดเป็นอัตราเติบโต 14% มูลค่ารวมของธุรกรรมอยู่ที่ 4.30 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 4.16 ล้านล้านบาท สะท้อนถึงการใช้งานที่ต่อเนื่องและมั่นคงในชีวิตประจำวันของผู้ใช้บริการทั่วประเทศ

วันที่มียอดธุรกรรมสูงสุดในเดือนกรกฎาคม

วันที่มียอดธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์สูงสุดในเดือนนี้คือ วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2568 มียอดธุรกรรมรวม 74.50 ล้านรายการ ในวันเดียว โดยปัจจัยสำคัญมาจากการโอนเงินเดือนช่วงปลายเดือน การทำธุรกรรมของภาคธุรกิจเพื่อปิดรอบบัญชี และกิจกรรมส่งเสริมฤดูท่องเที่ยวกลางปี

Cross-Border QR Payment เติบโตแข็งแกร่ง

บริการ Cross-Border QR Payment ยังคงขยายตัวในอัตราสูง โดยในเดือนกรกฎาคม 2568 มีมูลค่าธุรกรรมขาเข้า (Inbound) รวม 319.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 240.57 ล้านบาท

ประเทศที่มีการใช้จ่ายผ่าน Cross-Border QR Payment สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.มาเลเซีย – มูลค่า 175.26 ล้านบาท 2.ลาว – มูลค่า 42.87 ล้านบาท 3.อินโดนีเซีย – มูลค่า 38.44 ล้านบาท

การเติบโตของตัวเลขในเดือนกรกฎาคม 2568 ทั้งในด้านจำนวนธุรกรรม มูลค่าธุรกรรม และธุรกรรมข้ามพรมแดน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของผู้ใช้ในระบบพร้อมเพย์ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานการเงินดิจิทัลของประเทศ

NITMX จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบการชำระเงินให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับการเติบโตทั้งในประเทศและภูมิภาค

NITMX ยังคงเดินหน้าในการพัฒนาและยกระดับระบบการชำระเงินให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานที่ซับซ้อนมากขึ้นในอนาคต พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ

-031