นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ยางผสม และสินค้าปลายน้ำแผ่นยางพาราปูพื้นคุณภาพสูง เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ว่า มีปริมาณขายรวม 111,883 ตัน เพิ่มขึ้น 23.69% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 7,584.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.56% แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 6,087.80 ล้านบาท คิดเป็น 80.27% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 29.13% และรายได้จากการขายต่างประเทศ 1,496.76 ล้านบาท คิดเป็น 19.73% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 36.74% โดยมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 554.00 ล้านบาท คิดเป็น 7.30% ของรายได้จากการขายรวม เพิ่มขึ้น 15.72%

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณขายรวม 238,973 ตัน เพิ่มขึ้น 16.53% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 16,282.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.83% แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 12,165.26 ล้านบาท คิดเป็น 74.71% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 26.93% และรายได้จากการขายต่างประเทศ 4,117.33 ล้านบาท คิดเป็น 25.29% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 48.81%

“รายได้ครึ่งปีแรกที่เพิ่มขึ้น 31.83% แบ่งเป็นผลต่างด้านราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,889.44 ล้านบาท และแบ่งเป็นผลต่างด้านปริมาณเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2,309.58 ล้านบาท  โดยบริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,162.83  ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.14% ของรายได้จากการขายรวม เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 24.72%”นายชูวิทย์ กล่าว

ส่วนภาพรวมการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2568 มีแนวโน้มดี เนื่องจากปัจจุบันมีคำสั่งซื้อ (Order) ล่วงหน้า 3-6 เดือนครอบคลุมถึงไตรมาส 4/2568 จึงมั่นใจว่าในปี 2568 จะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 500,000 ตัน หรือประมาณ 34,000 ล้านบาท และยังมีปัจจัยหนุนความต้องการยางพาราในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย หลังโรงงานผลิตยางรถยนต์ย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทย โดยบริษัทได้ปรับสัดส่วนการส่งสินค้าไปยังโรงงานในประเทศอยู่ที่ 70% และส่งออก 30% ไปยังญี่ปุ่น จีน และอินเดีย เพื่อลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน