‘สอน.’ยกระดับพัฒนาน้ำตาลค่าดัชนีต่ำ Low Glycemic Index

‘สอน.’ยกระดับพัฒนาน้ำตาลค่าดัชนีต่ำ Low Glycemic Index

วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 11.38 น.

‘สอน.’ยกระดับพัฒนาน้ำตาลค่าดัชนีต่ำ Low Glycemic Index

สำนักงานคณะกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ตระหนักถึงศักยภาพของน้ำตาล Low GI ไม่เพียงแต่ในด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) ตามแนวทางของ BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ โดยวางเป้าหมายการเติบโตของอุตสาหกรรมชีวภาพไว้ที่ร้อยละ 10 ภายในปี 2570 และมูลค่าการลงทุนสะสมกว่า 190,000 ล้านบาท


ประเทศไทยมีความพร้อมด้านวัตถุดิบจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ซึ่งหากสามารถต่อยอดและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เช่น น้ำตาล Low GI, เวชสำอาง, สารสกัดชีวภาพ หรือพลังงานชีวภาพ จะส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ลดการพึ่งพาการส่งออกวัตถุดิบในรูปแบบเดิม และเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตน้ำตาลเป็นอันดับ 3 ของโลก มีศักยภาพอย่างยิ่งในการต่อยอดองค์ความรู้ด้านน้ำตาล Low GI  สู่การพัฒนาในระดับอุตสาหกรรม ไม่เพียงเพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชน แต่ยังสามารถยกระดับผลิตภัณฑ์น้ำตาลไทยให้ก้าวสู่ตลาดโลกในฐานะ “น้ำตาลเพื่อสุขภาพ” ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว อีกทั้ง เดินหน้าเสริมสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของประเทศไทย ผ่านการพัฒนา “น้ำตาลที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI)” ซึ่งเป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่มีความเสี่ยงโรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองแนวโน้มผู้บริโภคทั่วโลกที่หันมาบริโภคผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป ซึ่งได้มีการจำหน่ายน้ำตาล Low GI อย่างแพร่หลายแล้ว

สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้ดำเนินการพัฒนาครอบคลุมทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งนี้ได้ดำเนินการยื่นขอรับรองจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิเคราะห์น้ำตาล Low GI เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยมีการจัดทำคู่มือ Laboratory Quality Manual และ Work Instruction เตรียมความพร้อมขอการรับรองมาตรฐานในระดับสากลรวมทั้งพัฒนาบุคลากรด้านเทคนิค โดยจัดฝึกอบรมเชิงลึกร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในหัวข้อการวิเคราะห์น้ำตาล Low GI เช่น การตรวจวัดพอลิฟีนอล การวิเคราะห์ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และค่าการดูดซึมน้ำตาลในรูปแบบหลอดทดลอง อีกทั้ง ส่งเสริมการพัฒนาโรงงานน้ำตาลต้นแบบ โดยคัดเลือกโรงงานน้ำตาล 3 แห่งจากภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เพื่อเข้าร่วมโครงการปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำตาล Low GI และประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ภาคเอกชน ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับบุคลากรในโรงงานน้ำตาล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ ตอบโจทย์ตลาดยุคใหม่ และยกระดับผู้ประกอบการ การพัฒนาน้ำตาล Low GI ยังเป็นโอกาสในการต่อยอดสำหรับผู้ประกอบการ SMEs และ Startups ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ทั้งในกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ยังเตรียมผลักดันการตั้งหน่วยรับรองมาตรฐานในประเทศ เพื่อลดภาระต้นทุนจากการส่งผลิตภัณฑ์ไปตรวจสอบในต่างประเทศ และช่วยลดราคาจำหน่ายให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น สู่อนาคตอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลที่ยั่งยืน

“จากการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของ สอน.ในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากรด้านน้ำตาล Low GI ทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำในการผลิตน้ำตาลเพื่อสุขภาพในภูมิภาค สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบชีวภาพ พัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยและการพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมชีวภาพในอนาคต” นายใบน้อย กล่าวทิ้งท้าย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top