นายสิษฐวัศ เลิศอมรกิตติ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและการตลาด บมจ.เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ (MPJ) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2568 MPJ มีรายได้จากการให้บริการรวม 536.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6%  จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 59.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.8% โดยภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในประเทศช่วงครึ่งปีหลัง 2568 MPJ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทย ซึ่งส่งผลให้ปริมาณงาน (วอลุ่ม) จากความต้องการใช้ทั้งด้านการขนส่งและพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ MPJ ยังคงเดินหน้าลงทุนเพื่อเสริมศักยภาพการให้บริการแบบครบวงจรใน 4 กลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง ภายใต้งบลงทุนรวมกว่า 554 ล้านบาท แบ่งเป็นแผนการลงทุน 3 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจบริหารการจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ ตั้งงบลงทุน 194 ล้านบาท ปัจจุบันทยอยเปิดให้บริการโครงการลานตู้คอนเทนเนอร์ช่วงปลายไตรมาส 3/2568 ในพื้นที่ลาดกระบัง มีพื้นที่ 24.30 ไร่ สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 3,125 TEUs หรือประมาณการจำนวนตู้เข้า-ออกทั้งปีที่ 240,000 TEUs และคาดว่าสร้างรายได้แบบเต็มปีตั้งแต่ปี 2569 จำนวน 100 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 123 ล้านบาท ในปีถัดไป

ส่วนโครงการส่วนขยายใกล้เคียงบริเวณเดิม (แหลมฉบัง) คาดว่าจะเริ่ม Operate ได้ช่วงกลางไตรมาส 4/2568 ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในพื้นที่ส่งเสริมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) โดย MPJ ได้เตรียมพัฒนาและก่อสร้างลานตู้คอนเทนเนอร์ บนพื้นที่ 19.37 ไร่ สามารถรองรับการใช้งานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 3,000 TEUs หรือประมาณการจำนวนตู้เข้า-ออกทั้งปีที่ 200,000 TEUs โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ในปี 2569 จำนวน 50 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านบาท ในปีถัดไป

2.ธุรกิจการให้บริการขนส่งทางบกต่อเนื่องกับท่าเรือ ตั้งงบลงทุน 40 ล้านบาท รองรับการขยายเครือข่ายการขนส่งภายในประเทศ ปัจจุบันมีรถบรรทุกที่ให้บริการ 215 คัน และมีรถบรรทุกพันธมิตรเป็นผู้รับจ้างงานช่วงอีกประมาณ 50 คัน อีกทั้งมีแผนการนำรถบรรทุก EV จากกลุ่มพันธมิตรเข้ามาใช้งานในปี 2568 นี้ 120 คัน จากปัจจุบัน 30 คัน และการขยายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV

3.ธุรกิจการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า ตั้งงบลงทุน 320 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ใน จ.ระยอง เฟส 2 มีพื้นที่ 18,000 ตร.ม. คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมรับรู้รายได้ในปี 2569 เป็นต้นไป ทั้งนี้ปัจจุบันมีลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี และพลาสติก ให้ความสนใจเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และยังอยู่ระหว่างเจรจาอีกหลายราย คาดว่าได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ 

ในขณะที่ธุรกิจให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ MPJ เร่งเดินหน้าขยายการให้บริการไปยังตลาดในภูมิภาคใหม่ๆเพิ่ม โดยเฉพาะตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ควบคู่กับการขยายตลาดในโซนเอเชีย รวมทั้งศึกษาการขยายการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศเพิ่ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เชื่อว่าจะส่งผลให้เป้ารายได้ปี 2568 ของ MPJ แตะที่ระดับ 1,240 ล้านบาท เติบโต 22% จากปีก่อน ได้ตามแผนที่วางไว้