Kintone AI Lab ได้ผสานเทคโนโลยี Generative AI เข้าไว้ในแพลตฟอร์มโดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถออกแบบแอปพลิเคชันและจัดการกระบวนการทำงาน (Workflow) ได้ผ่านคำสั่งการสนทนาที่เรียบง่าย การเปิดตัวครั้งนี้มุ่งแก้ไขอุปสรรคสำคัญที่ SMB ในภูมิภาคกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการพัฒนาซอฟต์แวร์เฉพาะทางที่สูง ความซับซ้อนในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และปัญหาการขาดแคลนบุคลากรไอทีที่มีทักษะเชี่ยวชาญ
จากข้อมูลของธนาคารโลก (World Bank) ธุรกิจ SMB ของไทยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำอนาคตดิจิทัลของประเทศได้ หากสามารถแก้ไขปัญหาช่องว่างด้านทักษะที่สำคัญได้ โดยพบว่าเยาวชนไทยเกือบ 3 ใน 4 (74.1%) ยังขาดทักษะดิจิทัลขั้นพื้นฐาน และมีประชากรเพียงประมาณ 1% เท่านั้นที่มีทักษะดิจิทัลขั้นสูง ดังนั้น ธุรกิจ SMB จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตผ่านการฝึกอบรมพนักงาน การให้คำแนะนำ และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ รวมถึงเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI
การลดช่องว่างดังกล่าวไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มนวัตกรรมและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศได้ถึง 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ตามข้อมูลจากสถาบันการพัฒนาการจัดการนานาชาติ (International Institute for Management Development) หรือ IMD
นายน้ำยา วายุภาพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คินโทน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการพูดคุยกับเจ้าของธุรกิจและผู้จัดการฝ่ายไอทีในประเทศไทย เราพบว่ามีความตื่นตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากต่อศักยภาพของซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเองและเทคโนโลยี AI นี่ถือเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมที่จะแสดงให้กลุ่ม SMB เห็นว่าเครื่องมืออันทรงพลังเหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังเข้าถึงได้ง่ายและพร้อมที่จะปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของทีมงาน
"Kintone AI Lab มอบศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้อยู่ในมือของคนที่รู้จักธุรกิจของตนเองดีที่สุด เป็นแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง นั่นคือ หากใครสามารถอธิบายปัญหาทางธุรกิจได้ ก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันเพื่อแก้ปัญหานั้นและขับเคลื่อนความสำเร็จได้ด้วยตัวเองในขณะนี้"
Kintone AI Lab เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์ชุดความสามารถด้าน AI ในช่วงแรกเริ่มที่จะถูกพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงนี้ความคิดเห็นจากผู้ใช้งาน จะถูกนำไปต่อยอดการพัฒนาระบบที่ใช้งานได้จริง ยึดถือแนวคิดเครื่องมือที่ออกแบบโดยคำนึงถึงคนเป็นหลัก หรือ “people-first tool” โดยฟังก์ชันเริ่มต้นประกอบด้วย:
AI App Creator: ผู้ใช้สามารถอธิบายความต้องการลงในหน้าต่างแชทด้วยประโยคที่เรียบง่าย เช่น “ฉันต้องการแอปสำหรับติดตามการสอบถามของลูกค้า” จากนั้น AI จะตีความคำขอและเสนอโครงสร้างแอปพลิเคชันพร้อมฟิลด์ข้อมูลที่เหมาะสม
AI Process Creator: ฟีเจอร์นี้ช่วยผู้ใช้ในการตั้งค่ากระบวนการทำงานและการอนุมัติที่ซับซ้อน ผ่านการสนทนาบนแชทที่เข้าใจง่าย เปลี่ยนงานที่ต้องทำด้วยมือ ให้กลายเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้น
ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถให้พนักงานปัจจุบันสามารถทดแทนการทำงานบนเอกสารกระดาษและกระบวนการที่ไม่มีประสิทธิภาพ Kintone AI Lab ช่วยให้ธุรกิจสามารถเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แล้วสร้างความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การขยายการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน
การมอบเครื่องมือที่ทรงพลังให้พนักงานจำนวนมากขึ้นใช้งาน ทำให้การกำกับดูแลข้อมูลที่รัดกุมกลายเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด Kintone AI Lab ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ด้วยโครงสร้างความปลอดภัยระดับองค์กรที่มาพร้อมกับการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงที่เข้มงวด ซึ่งจัดการผ่านการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบใน Kintone นอกจากนี้ ยังรับประกันว่าข้อมูลของผู้ใช้จะไม่ถูกนำไปใช้ฝึกฝนโมเดล Generative AI ภายนอกอย่างเด็ดขาด โดยบริการนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานระดับองค์กรที่น่าเชื่อถือของ Cybozu
"วิสัยทัศน์ของเราสำหรับ Kintone AI คือการจุดประกายคลื่นลูกใหม่ของการทำงานร่วมกันโดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลางสำหรับทุกคน" คุณน้ำยากล่าวเสริม ภายในปี 2030 เรามองเห็นภาพเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ AI ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการยอมรับความแตกต่างและความคิดสร้างสรรค์ที่มากขึ้น เพื่อสร้างอนาคตดิจิทัลที่สดใสและเปี่ยมด้วยพลังสำหรับภูมิภาคที่มีความหลากหลายอันน่าทึ่งแห่งนี้
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี