BDI ผนึก สปสช. รุกขยายเครือข่าย Health Link สู่ภาคเหนือ

BDI ผนึก สปสช. รุกขยายเครือข่าย Health Link สู่ภาคเหนือ

วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 13.57 น.

นพ.ธนกฤต จินตวร รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) ด้านบริหารกิจการพิเศษ กล่าวว่า BDI ให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายบริการด้านสุขภาพสู่ระดับภูมิภาค โดยการลงพื้นที่ ที่ชาตรีคลินิก การพยาบาลและการผดุงครรภ์ จังหวัดนครสวรรค์ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของโครงการ Health Link ในการกระจายเครือข่ายการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้เป็นการต่อยอดจากการดำเนินงานในพื้นที่นำร่องก่อนหน้านี้ เริ่มจากกรุงเทพมหานคร และจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากการใช้งานแพลตฟอร์ม Health Link ในการยกระดับคุณภาพการดูแลรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เนื่องจากระบบสามารถลดความซ้ำซ้อนในการตรวจวินิจฉัย เพิ่มความแม่นยำในการรักษา และสนับสนุนการประสานงานระหว่างหน่วยบริการสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่มีการย้ายถิ่นฐานหรือเปลี่ยนสถานพยาบาลบ่อยครั้ง ทำให้สามารถได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน มีสถานพยาบาลและหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ Health Link แล้วรวมกว่า 2,237 แห่ง แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 1,592 แห่ง และในต่างจังหวัดจำนวน 645 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างไร้รอยต่อ ครอบคลุมตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ จนถึงตติยภูมิ เพื่อให้การรักษามีความปลอดภัย ครบถ้วน และลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการจากหน่วยบริการที่เชื่อมโยงข้อมูลได้ทุกแห่ง โดยไม่จำกัดเฉพาะโรงพยาบาลตามสิทธิ


พร้อมกันนี้ BDI ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการ Health Link อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการและครอบคลุมทุกมิติของระบบสุขภาพ ภายใต้กลยุทธ์หลัก 3 Healths ได้แก่ บริการด้านสุขภาพ (Health Service)  การเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Financing) ·   การวิเคราะห์สุขภาพด้วยข้อมูลและ AI (Health Analytics & AI

“การเดินหน้าขยายการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้ครอบคลุมหน่วยบริการทั่วประเทศ สะท้อนบทบาทเชิงรุกของ BDI ในการวางรากฐานสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Nation) โดยบูรณาการข้อมูลจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อรองรับการวางแผน จัดสรรทรัพยากร และกำหนดนโยบายได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง” นพ.ธนกฤต กล่าวสรุป   

ด้าน นพ.ปฏิภาคย์ นมะหุต ผู้แทนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 3 จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง สปสช. และ BDI ในครั้งนี้ ถือเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เขต 3 ซึ่งครอบคลุมหน่วยบริการสุขภาพใน 5 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร นครสวรรค์ ชัยนาท พิจิตร และอุทัยธานี โดยปัจจุบันมีหน่วยบริการกว่า 550 แห่ง คาดว่าในอนาคตจะเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่านระบบ Health Link ให้มากที่สุด เพื่อใช้เป็นเครื่องมือหลักในการส่งต่อข้อมูลระหว่างสถานพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ

 “การดำเนินงานดังกล่าว ไม่เพียงช่วยยกระดับการให้บริการเชิงปฏิบัติในระดับพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบสุขภาพที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Health System) ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐสามารถวิเคราะห์แนวโน้มด้านสุขภาพของประชาชนในแต่ละพื้นที่ วางแผนการจัดสรรทรัพยากรได้อย่างตรงจุด และยกระดับคุณภาพบริการให้ครอบคลุมทั้งการป้องกันและการรักษาได้อย่างยั่งยืน” นพ.ปฏิภาคย์ กล่าว

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top