ปณท. ผนึก AOT  ศึกษาการเชื่อมโยงขนส่งอากาศด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม ชูระบบคาร์โก ส่งออก – นำเข้า

ปณท. ผนึก AOT ศึกษาการเชื่อมโยงขนส่งอากาศด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม ชูระบบคาร์โก ส่งออก – นำเข้า

วันพฤหัสบดี ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568, 08.15 น.

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อศึกษาและพัฒนา Airport Cargo Community System (ACS) แพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์กลางที่จะเชื่อมโยงการทำงานของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ      ตั้งแต่ผู้นำเข้า–ส่งออก สายการบิน ผู้ให้บริการภาคพื้น ตัวแทนขนส่ง ตัวแทนออกของศุลกากร ไปจนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับระบบข้อมูลและการบริหารจัดการโลจิสติกส์ของประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน   ลดความซ้ำซ้อน รองรับการเติบโตของธุรกิจนำเข้า–ส่งออก สู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศ

นายรัฐพล ภักดีภูมิ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับระบบโลจิสติกส์ทางอากาศของประเทศไทย โดยเฉพาะการพัฒนาแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ Airport Cargo Community System (ACS) ที่จะทำหน้าที่เชื่อมโยงการทำงานของทุกภาคส่วน  ตั้งแต่สายการบิน ผู้ให้บริการขนส่ง ตัวแทนนำเข้า–ส่งออก ไปจนถึงเครือข่ายการขนส่งทางบก พร้อมต่อยอดสู่การ  บริหารจัดการช่วงเวลารถบรรทุก (Truck Slot Management) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ลดต้นทุน และตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน สอดคล้องกับแนวทาง Green Logistics ที่ไปรษณีย์ไทยได้ให้ความสำคัญ และยังทำให้การขนส่งในมิติต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างไร้รอยต่อ


“คณะกรรมการไปรษณีย์ไทยมุ่งกำหนดทิศทางและสนับสนุนนโยบายเชิงกลยุทธ์ ที่เน้นการบูรณาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ควบคู่กับการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่าง AOT เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบการขนส่งสินค้าทางอากาศของประเทศไทยก้าวสู่มาตรฐานสากล และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ ดิจิทัลในทุกมิติ ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศในภูมิภาคอาเซียน เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานโลก สร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนใหม่ ๆ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว”

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย มุ่งมั่นในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ โดยความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง AOTที่จะช่วยสร้างกลไกกลางที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนในห่วงโซ่การขนส่งสินค้าทางอากาศ ตั้งแต่ผู้นำเข้า–ส่งออก สายการบิน ผู้ให้บริการภาคพื้น ไปจนถึงหน่วยงานศุลกากรและพันธมิตรที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โดยโครงการนี้ยังต่อยอดไปสู่การพัฒนานวัตกรรมด้านโลจิสติกส์สมัยใหม่ เช่น การจับคู่สินค้ากับพื้นที่บรรทุกด้วย AI และ Machine Learning การบริหารจัดการช่วงเวลารถบรรทุก (Truck Slot Management)  ระบบ Smart Backhaul Trucking ที่ช่วยลดเที่ยวรถเปล่าและการใช้พลังงาน การวิเคราะห์เส้นทาง การรวมสินค้าจากหลายผู้ส่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน API เข้ากับระบบ TMS, Customs, ERP และคลังสินค้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอน

“จากแนวโน้มของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยที่มีการเติบโตขึ้น ส่งผลต่อการขนส่งสินค้าทางอากาศ ทำให้ได้รับความนิยมและขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ไปรษณีย์ไทยจึงได้สนับสนุนช่องทางการส่งพัสดุ-ไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศ ซึ่งปัจจุบันมีบริการส่งพัสดุทางอากาศระหว่างประเทศ ที่สามารถทำรายได้หลักให้กับบริษัท ได้แก่ บริการส่งพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ EMS World โดยมีจุดเด่นในการให้บริการคือสามารถจัดส่งพัสดุด่วนทั่วโลกครอบคลุมปลายทางกว่า 200 แห่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการในยุคสมัยปัจจุบัน พร้อมกันนี้ ยังมีทางเลือกสำหรับบริการส่งพัสดุราคาประหยัดอย่าง ePacket ซึ่งเป็นบริการส่งด่วนแบบลงทะเบียนระหว่างประเทศ ”

ด้าน ดร.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า  AOT มุ่งหวังว่าการศึกษาและพัฒนาร่วมกับไปรษณีย์ไทย จะเป็นการบูรณาการ การขนส่งสินค้าทางอากาศ และทางรถที่เป็นประโยชน์และช่วยลดต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์ ให้แก่ ผู้ผลิตสินค้า ผู้ให้บริการตัวแทนขนส่งสินค้า รวมไปถึงประชาชนไทยที่มีความต้องการในการขนส่งสินค้าอีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับระบบการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cool Chain Logistics) ให้เหมาะสมกับสินค้าเกษตรของไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างศักยภาพของการขนส่งสินค้าทางอากาศของประเทศให้สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ได้ในระดับสากล เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับประเทศ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคเอเชียต่อไป

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top