กรมพัฒน์ ลงพื้นที่หารือผู้ประกอบการแฟรนไชส์ย่านการค้าวัดโพธิ์

กรมพัฒน์ ลงพื้นที่หารือผู้ประกอบการแฟรนไชส์ย่านการค้าวัดโพธิ์

วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568, 10.43 น.

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาครัฐจำเป็นต้องลงรายละเอียดในการปฏิบัติราชการมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกสถานการณ์ล้วนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจประเทศตามความเกี่ยวเนื่องระหว่างกัน การเดินเกมส์ให้ทันความท้าทายจะช่วยให้ภาคธุรกิจไทยสามารถรับมือทุกเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด โดยมีภาครัฐให้การสนับสนุนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอย่างแข็งแกร่ง

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุนของกรมฯ และสำรวจย่านการค้าวัดโพธิ์พบปะผู้ประกอบการค้าปลีก (จำหน่ายของที่ระลึก) ในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเชิงรุกที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจในทุกมิติ โดยกรมฯ พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นทั้งปัญหา อุปสรรค ความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ รวมทั้ง แนวทางการพัฒนาธุรกิจในมุมมองของผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐสามารถนำความคิดเห็นนั้นมาวางแผนพัฒนาผู้ประกอบการ/ธุรกิจได้ตรงตามความต้องการ รวมทั้ง นำมาวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อสร้างเป็นโมเดลการแก้ปัญหาของภาคธุรกิจ พร้อมนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอื่นที่มีลักษณะทางกายภาพที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือสนับสนุนของภาครัฐมีความรอบด้านมากขึ้น 


นางอรมน กล่าวว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ลงพื้นที่พูดคุย คือ บริษัท เฮียเล็กเกาเหลาหมูสามอย่าง จำกัด เป็นผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุน โดยบริษัทฯ ได้ผ่านการอบรมพัฒนาธุรกิจจากกรมฯ 2 กิจกรรม คือ 1) กิจกรรมการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (B2B Franchise) รุ่นที่ 27 ปี 2567 และ 2) กิจกรรมยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard) ปี 2567 จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตั้งแต่ปี 2566 เป็นธุรกิจขนาดกลาง ประกอบกิจการขายอาหารและเครื่องดื่ม โดยร้านเฮียเล็กเกาเหลาหมูสามอย่างในตำนานเริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ในตลาดพาหุรัด ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ถนนเยาวราช และขยายธุรกิจเป็นแฟรนไชส์ มี8 สาขาทั่วประเทศ เป็นที่รู้จักจากเมนูเกาเหลาที่เครื่องแน่น ทั้งหมูชิ้น หมูกรอบ และหมูสับ รวมถึงเมนูอื่นๆ เช่น ก๋วยจั๊บ ต้มเล้ง และยำหมูย่าง เป็นต้น

ทั้งนี้ หลังจากที่ได้รับฟัง พูดคุยถึงรายละเอียด ปัญหา-อุปสรรคของผู้ประกอบการ รวมทั้ง ความต้องการได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐของทั้ง 2 ธุรกิจแล้ว กรมฯ จะเร่งสรุปปัญหา-อุปสรรค ความต้องการของภาคธุรกิจ พร้อมจัดทำแผนพัฒนาและสนับสนุนธุรกิจแต่ละพื้นที่อย่างครบวงจร โดยเน้นความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ รวมทั้งจะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจนำนวัตกรรมมาใช้เป็นเครื่องมือเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ พัฒนาหลักสูตรการอบรมของกรมฯ ให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและความต้องการของภาคธุรกิจ ซึ่งผลจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ยิ่งมีความเชื่อมั่นว่า ‘SME ไทย’ เป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญ และเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ทั้งนี้ ขอชื่นชมภาคธุรกิจที่มีการประกอบธุรกิจด้วยความแข็งแกร่ง โดยสิ่งที่สัมผัสได้จากผู้ประกอบการ คือ พลังความร่วมมือของผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจและย่านการค้าที่เป็นปัจจัยสำคัญช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

แฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 300,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 15-20 ต่อปี โดยข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน 2568 มีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 545 ราย แบ่งเป็น 6 ประเภทธุรกิจ คือ อาหาร 248 ราย เครื่องดื่ม 106 ราย การศึกษา 68 ราย  บริการ 66 ราย ค้าปลีก 33 ราย และความงาม/สปา 24 ราย        

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top