Bitget มองอีธีเรียมมีลุ้นผลตอบแทนแซงบิทคอยน์

Bitget มองอีธีเรียมมีลุ้นผลตอบแทนแซงบิทคอยน์

วันพุธ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.24 น.

Bitget เผยเทคโนโลยีสินทรัพย์จริงที่ถูกแปลงเป็นโทเค็นบนบล็อกเชน กำลังเติบโตจากแรงสนับสนุนของหน่วยงานกำกับดูแลและสถาบันการเงิน ชี้จับตาจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการหลังพบล่าสุด Nasdaq ซึ่งนำหลักทรัพย์ที่แปลงเป็นโทเค็นเข้าเทรดในตลาดหุ้นภายในปีหน้า

คาดมูลค่าของอีธีเรียมมีโอกาสพุ่งแรงในฐานะโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากใช้งานที่มากขึ้น หลังพบการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนสุทธิในกองทุน ETF ที่เกิน 9 พันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส มีโอกาสผลักดันให้ผลตอบแทนของอีธีเรียมเหนือว่าบิตคอยน์มองการเติบโตของการแปลงสินทรัพย์จริงเป็นโทเค็นเป็นแรงผลักดันมูลค่าอีธีเรียมแตะระดับ 5,000 - 8,000 ดอลลาร์ ขณะที่นโยบายดอกเบี้ยขาลงของเฟด และหากสหรัฐฯจัดตั้งกองทุนสำรองเชิงกลยุทธ์บิทคอยน์สำเร็จจะดันราคาแตะ 200,000 ดอลลาร์ ในสิ้นปีนี้


นางสาวเกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการของ บิตเก็ต (Bitget) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีและบริษัท Web3 ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่ากระแสของสินทรัพย์จริงที่ถูกโทเค็นไนซ์บนบล็อกเชน (Tokenized Real-World Assets - RWA) กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วภายใต้แรงผลักดันจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกตลอดจนสถาบันการเงินต่างๆทำให้กลายมาเป็นสะพานเชื่อมสำคัญระหว่างตลาดการเงินดั้งเดิม (TradFi) และโลกของ Web3 ทำให้มูลค่าตลาดคริปโทจะขยายตัวขึ้นตาม พัฒนาการที่เด่นชัดที่สุดคือตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq มีแผนที่จะนำหลักทรัพย์โทเค็นไนซ์ (tokenized securities) เข้าซื้อขายในตลาดหลักภายในปี 2026 อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการการเงินที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถถือครองหุ้นแบบเศษส่วน (fractional ownership) ซึ่งจะช่วยขยายการมีส่วนร่วมจากผู้ลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย นอกจากนี้การชำระธุรกรรมแบบเกือบเรียลไทม์ผ่านบล็อกเชน จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานทำให้ทั้งสถาบันและบุคคลทั่วไปสามารถทำธุรกรรมได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 “แนวโน้มดังกล่าวมีส่วนผลักดันมูลค่าของอีธีเรียมในฐานะโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่งจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวในฐานะการใช้งานจริง (utility-driven demand) สะท้อนไปยังการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนสุทธิในกองทุน ETF ที่เกิน 9 พันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส ซึ่งจะผลักดันให้ผลตอบแทนของอีธีเรียมเหนือว่าบิตคอยน์ในที่สุด” นางสาวเกรซี่ เฉิน กล่าว

ขณะที่บิตคอยน์ยังต้องจับตาการผลักดันร่างกฎหมาย BITCOIN Act ที่จะจัดตั้งกองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์บิตคอยน์ให้ได้สูงสุด 1 ล้าน BTC ภายใน 5 ปี โดยไม่ต้องใช้เงินภาษีของประชาชน ถ้าหากผลักดันสำเร็จสหรัฐฯ จะไม่เพียงกลายเป็น มหาอำนาจของโลกคริปโท แต่ยังช่วยเร่งนวัตกรรมในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย

อย่างไรก็ดีบิตเก็ต ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกได้มีการปรับตัวเข้าสู่กระแสของสินทรัพย์จริงที่ถูกโทเค็นไนซ์บนบล็อกเชนด้วยการเปิดตัว Real-World Asset (RWA) Index Perpetuals ที่สามารถซื้อขายหุ้นและดัชนีตลาดหุ้นที่ถูกโทเค็นไนซ์ในเครื่องมือเดียวภายใต้ราคาที่โปร่งใส รวมถึงเปิดตัว Wallet Card ที่ใช้สกุลเงิน USD ในลาตินอเมริการ่วมกับ Mastercard ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้จ่ายสเตเบิลคอยน์ได้ที่ร้านค้ากว่า 150 ล้านแห่งทั่วโลก พร้อมเพิ่มการฝากเงินผ่าน Visa และ Mastercard เพื่อรองรับ 140 สกุลเงิน

 “การทำงานร่วมกับสถาบันการเงินดั้งเดิมทำให้เราต้องให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการรักษาความปลอดภัยในการใช้งานให้มีมาตราฐานสูงขึ้นโดยปัจจุบันเรามี” อัตราส่วน Proof-of-Reserves ที่แข็งแกร่งกว่า 1:1 โดยสำรองบิตคอยน์ ใกล้ระดับ 200% เพื่อเป็นเกาะคุ้มกันในช่วงตลาดผันผวน” นางสาวเกรซี่ เฉิน กล่าว

นายไรอัน ลี หัวหน้านักวิเคราะห์ ของ บิตเก็ต  กล่าวว่าประเด็นเศรษฐกิจมหภาคที่ต้องจับตาคือนโยบายดอกเบี้ยขาลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดไว้จะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืมและเพิ่มสภาพคล่อง เป็นแรงส่งให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจากปัจจัยมหภาคและปัจจัยพื้นฐาน เราคาดว่าราคาบิทคอยน์แจะขยับขึ้นไปแตะ 150,00-200,000 ดอลลาร์ และอีธีเรียมจะขึ้นไปแตะ 5,000-8,000 ดอลลาร์ ในช่วงสิ้นปีนี้

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top