พาณิชย์ ชี้โอกาสทองธุรกิจประกันชีวิต ที่ปรึกษาการลงทุน และการจากลา

พาณิชย์ ชี้โอกาสทองธุรกิจประกันชีวิต ที่ปรึกษาการลงทุน และการจากลา

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568, 09.43 น.

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยผลวิเคราะห์ธุรกิจประจำเดือนสิงหาคม 2568 ชี้แนวโน้มประชากรอายุยืนขึ้น ส่งผลให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับการวางแผนชีวิตรอบด้านตั้งแต่การเงิน สุขภาพ จนถึงวาระสุดท้าย  หนุน 3 ธุรกิจหลักคือ ประกันชีวิต ที่ปรึกษาการลงทุน และธุรกิจเกี่ยวกับการจากลา เติบโตต่อเนื่อง โดยธุรกิจประกันชีวิตมีทุนจดทะเบียนรวมกว่า 106,966 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนทำกำไรสุทธิพุ่ง 1,035 ล้านบาท และธุรกิจการจากลามีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 12.79%

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้วิเคราะห์ธุรกิจประจำเดือนสิงหาคม 2568 พบว่า ปัจจุบันค่าเฉลี่ยอายุขัยของประชากรในโลกสูงขึ้น โดยคนไทยอยู่ที่ 76.8 ปี ด้วยค่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น การใช้ชีวิตที่ยาวนานอย่างมีคุณภาพจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ผู้คนยุคนี้จึงได้มองหาความสุขควบคู่ไปกับความมั่นคงทางการเงินที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตตั้งแต่ถือกำเนิด วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยเกษียณ จนถึงวันจากลา อีกทั้งการมีชีวิตที่ออกแบบเองได้เป็นสิ่งที่คนยุคใหม่ตั้งความหวังไว้ จึงได้ให้ความสำคัญกับการวางแผนชีวิตในทุกมิติตั้งแต่การเงิน สุขภาพ ไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ส่งผลให้ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน และธุรกิจเกี่ยวกับการจากลา มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องและกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ตอบสนองต่อความมั่นคงและคุณภาพชีวิตของประชาชน


ทั้งนี้ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประกันชีวิต’ เป็นตลาดขนาดใหญ่ มูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกว่า 1 แสนล้านบาท ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568 มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประกันชีวิตที่จดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศไทยจำนวน 996 ราย แบ่งเป็น ธุรกิจประกันชีวิต 101 ราย ทุนจดทะเบียน 106,966 ล้านบาท และธุรกิจตัวแทนและนายหน้า 895 ราย ทุนจดทะเบียน 3,223 ล้านบาท ทั้ง 2 ประเภทส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) สะท้อนให้เห็นว่าแม้การดำเนินธุรกิจประกันชีวิตต้องใช้เงินทุนสูง แต่ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเนื่องจากเป็นเครื่องมือในการออมและสร้างหลักประกันทั้งด้านสุขภาพ การศึกษา การใช้ชีวิตหลังเกษียณ และการส่งต่อมรดกให้ครอบครัว รายได้ของธุรกิจประกันชีวิตในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (2565-2567) เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2567 มีรายได้รวมกว่า 571,601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.90% จากปี 2566 และมีกำไรสุทธิ 35,532 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 31.31% เมื่อเทียบกับปี 2566 ด้านการลงทุนจากต่างชาติมีมูลค่าการลงทุน 47,430 ล้านบาท โดยสิงคโปร์ลงทุนสูงสุดในธุรกิจประกันชีวิต (25,822 ล้านบาท) และเยอรมันลงทุนสูงสุดในธุรกิจตัวแทนและนายหน้า

อย่างไรก็ตาม การสร้างความมั่นคงทางด้านการเงิน และการลงทุนได้อย่างยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ส่งผลให้ ‘ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน’ ช่วยตอบโจทย์สังคมลงทุนยุคใหม่ โดยมีนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ 831 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกว่า 7,950 ล้านบาท โดย 98.44% เป็นธุรกิจขนาดเล็ก แต่อัตราการเติบโตยังคงเป็นไปในทิศทางบวก โดยปี 2567 ธุรกิจนี้สร้างรายได้รวมกว่า 4,944 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 12.64% ขณะเดียวกันการลงทุนจากต่างชาติมีมูลค่า 1,040 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.10% ของมูลค่าลงทุนทั้งหมดในธุรกิจนี้ โดยมีหมู่เกาะเคย์แมน (248 ล้านบาท) สิงคโปร์ (226 ล้านบาท) และจีน (106 ล้านบาท) เป็นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ สะท้อนความเชื่อมั่นของต่างชาติในตลาดบริการที่ปรึกษาด้านการเงินของไทย

นอกจากนี้ การมาถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเป็นเรื่องที่คนยุคใหม่เปิดใจพูดถึงกันมากขึ้นและยอมรับในการเตรียมตัวเพื่อไม่เป็นภาระกับคนที่อยู่ข้างหลัง ‘ธุรกิจเกี่ยวกับการจากลา’ จึงเกิดเป็นธุรกิจใหม่เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค อาทิ ให้คำปรึกษาและวางแผนเพื่อการตายที่ดี การออกแบบวาระและงานสุดท้ายได้ด้วยตนเอง และงานบริการหลังความตายครบวงจร แม้ธุรกิจนี้จะมีสัดส่วนการตลาดที่เล็กแต่ก็มีแนวโน้มเติบโต โดยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมงานศพดำเนินกิจการ 44 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 99.72 ล้านบาท และส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กกว่า 97.73% รายได้ในปี 2567 อยู่ที่ 239 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.79% จากปี 2566 ทั้งนี้ ยังมีการลงทุนจากต่างชาติคิดเป็น 10.67% ของมูลค่าลงทุนทั้งหมดในธุรกิจนี้ และมูลค่าการลงทุน 10.64 ล้านบาท ประเทศที่ลงทุนสูงสุด ได้แก่ มาเลเซีย (6.64 ล้านบาท) ไต้หวัน (2.45 ล้านบาท) และฮ่องกง (0.98 ล้านบาท)

การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสังคมและพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะสังคมผู้สูงอายุและครอบครัวขนาดเล็ก ได้ผลักดันให้การวางแผนชีวิตกลายเป็นเรื่องสำคัญ และสร้างโอกาสให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเติบโต ไม่เพียงแต่ธุรกิจในข้างต้นจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงแต่ยังมีบทบาทโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกช่วงวัย ตั้งแต่การสร้างหลักประกัน ความมั่นคงทางการเงิน ไปจนถึงการจัดการวาระสุดท้ายอย่างมีคุณค่า ซึ่งกรมฯ จะเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถปรับตัว สร้างนวัตกรรม และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างยั่งยืน” อธิบดี กล่าวทิ้งท้าย

- 030 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top