นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์พลังงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 มีการใช้พลังงานขั้นต้นลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยเป็นการลดลงของการใช้ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ในขณะที่การใช้น้ำมัน ลิกไนต์ และไฟฟ้าพลังน้ำ/ไฟฟ้านำเข้า มีการใช้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้การใช้น้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 จากการใช้น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล น้ำมันเตา และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ยกเว้นน้ำมันดีเซล ในขณะที่การใช้น้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 สอดคล้องกับสถิติจำนวนผู้เยี่ยมเยือนไทยที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของการใช้ไฟฟ้าลดลง 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยมาจากการใช้ไฟฟ้าในส่วนอุตสาหกรรม ครัวเรือน ธุรกิจ

นอกจากนี้ สนพ.ยังได้คาดการณ์ความต้องการใช้พลังงานของประเทศปี 2568 โดยคาดว่าจะลดลง 1.6% เมื่อเทียบกับปี 2567 ที่ผ่านมา จากการลดลงของการใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน/ลิกไนต์ ขณะที่การใช้น้ำมัน และไฟฟ้าพลังน้ำ/ไฟฟ้านำเข้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวลง

สำหรับในส่วนของการใช้น้ำมันนั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการใช้น้ำมันเกือบทุกประเภท ยกเว้นการใช้น้ำมันดีเซลที่ลดลงจากความต้องการใช้ในภาคขนส่งที่คาดว่าจะลดลง ในส่วนของการใช้ก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะลดลงจากทั้งการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า การใช้ในภาคอุตสาหกรรม และการใช้ในรถยนต์ (NGV) และในส่วนของการใช้ไฟฟ้าคาดว่าจะลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับปี 2567 จากอุณหภูมิที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับปี 2567 ปริมาณฝนที่มากเนื่องจากปรากฏการณ์ลานีญา ประกอบกับฐานการใช้ไฟฟ้าที่สูงของปี 2567 ที่มีสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงต้น