นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานกล่าวว่าภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง  เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2568 อยู่ที่ 156.90 ล้านลิตร/วันเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 9.8%การใช้น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 8.9 %และกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 1.5% ขณะที่การใช้ LPG ลดลง 3.9 %น้ำมันดีเซลหมุนเร็วลดลง 2.0% และ NGV ลดลง 15.8%

ยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิดในเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมีพบว่า การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 32.01 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 1.5% โดยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.44 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากส่วนต่างราคาระหว่างแก๊สโซฮอล์ 95 กับแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลงมาอยู่ที่ 0.37 บาท/ลิตร (ราคาเฉลี่ยเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568) โดยในช่วงเดียวกันของปีก่อนส่วนต่างราคาระหว่างแก๊สโซฮอล์ 95 กับแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 1.10 บาท/ลิตรจึงทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้แก๊สโซฮอล์ 95 สูงขึ้นจากปีก่อน

ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ลดลงมาอยู่ที่ 6.65 ล้านลิตร/วัน แก๊สโซฮอล์อี 20 ลดลงมาอยู่ที่ 5.14 ล้านลิตร/วัน เบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 0.39 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์อี 85 ลดลงมาอยู่ที่ 0.06 ล้านลิตร/วัน พบว่าการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเริ่มเห็นสัญญาณของการชะลอตัวลงสาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ การขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้า (BEV HEV และ PHEV) มีสัดส่วน 6.7% ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน1 รวมถึงการใช้งานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีการขยายตัวของผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องคิดเป็น 2.6 2% เทียบกับปีก่อน

การใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เฉลี่ยอยู่ที่ 66.69 ล้านลิตร/วัน ลดลง 2.0% ประกอบด้วยดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ลดลงมาอยู่ที่ 66.67 ล้านลิตร/วัน สอดคล้องกับดัชนีการส่งสินค้า (Shipment Index) เฉลี่ยเดือนมกราคม - กรกฎาคม ที่หดตัวลง 1.06% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน3 ประกอบกับการขยายตัวของ GDP ไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 2.8% ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงจากการขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 1/2568 โดยเฉพาะการชะลอตัวจากกลุ่มบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวตามจำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หดตัวลง รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า การส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงหลังจากเร่งไปในช่วงก่อนหน้า4 สำหรับดีเซลหมุนเร็วบี 20 ลดลงมาอยู่ที่ 0.02 ล้านลิตร/วัน ขณะที่ดีเซลพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.10 ล้านลิตร/วัน ภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลอยู่ที่ 68.79 ล้านลิตร/วัน

นายสราวุธ กล่าวว่าการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 17.40 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 9.8% ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปีก่อนโดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งคนไทยและต่างชาติขยายตัว 0.95% รวมไปถึงการขยายตัวของบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยสะสม 7 เดือนแรกของปี 2568 มีจำนวน 19.29 ล้านคนลดลง 6.4 %เป็นการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ (โดยเฉพาะจีน) ที่ลดลง 25.66% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากปัจจัยด้านความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจภายในประเทศจากนโยบายการค้าโลก

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.97 ล้านกก./วัน ลดลง 3.9%ผลมาจากการใช้ภาคปิโตรเคมี ที่ลดลงมาอยู่ที่ 7.76 ล้านกก./วัน ภาคขนส่งลดลงมาอยู่ที่ 2.28 ล้านกก./วัน ขณะที่การใช้ในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.87 ล้านกก./วัน และภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.06 ล้านกก./วัน

ส่วนการใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 2.41 ล้านกก./วัน ลดลง 15.8% โดยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องสอดคล้องกับจำนวนรถจดทะเบียน NGV สะสมที่ลดลง และจำนวนสถานีบริการ NGV ที่มีแนวโน้มปิดตัวต่อเนื่อง โดยปตท. ยังคงช่วยเหลือผ่านโครงการบัตรสิทธิประโยชน์ ให้กับกลุ่มรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ และได้ประกาศปรับลดราคา NGV สำหรับรถทั่วไปลง 0.28 บาท/กก. ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 17.08 บาท/กก. โดยมีผลระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม - 15 กันยายน 2568 และจะมีการพิจารณาทุก ๆ เดือน เพื่อสะท้อนกลไกต้นทุนที่แท้จริง

นายสราวุธ กล่าวว่าการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 1,024,145 บาร์เรล/วัน ลดลง 1.2 %คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 78,208 ล้านบาท/เดือนเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบ989,623 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 1.8 %คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบ76,246 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 34,522 บาร์เรล/วัน ลดลง 46.8% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป1,963 ล้านบาท/เดือน  ส่วนการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เฉลี่ยอยู่ที่ 139,225 บาร์เรล/วัน ลดลง 17.7% เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 11,626 ล้านบาท/เดือน