นางสาวบุษรัตน์ เบญจรงคกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาตหรือทีทีบีกล่าวว่าในครึ่งแรกของปี 2568 ภาคการค้าต่างประเทศถือว่ามีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญโดยประเทศไทยมีสัดส่วนการค้าระหว่างประเทศ (นำเข้า-ส่งออก) รวมกันมากถึง 113% ของGDPคาดว่ามูลค่าการนำเข้า-ส่งออกในปี 2568 จะยังสามารถเติบโตได้ที่ 3.5%

โดยมีตลาดใหม่อย่างตะวันออกกลางและละตินอเมริกาเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เช่น ประเทศซาอุดิอาระเบีย คู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่หลากหลายภายใต้แผนปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (Saudi Vision 2030) หรือ ประเทศกาตาร์ ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง สินค้าส่งออกจากไทยสำคัญ ๆ ได้แก่ อาหารแปรรูป และชิ้นส่วนยานยนต์  ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ หรือ ประเทศเม็กซิโก คู่ค้าสำคัญของไทยในภูมิภาคละตินอเมริกาที่มีสินค้าส่งออกและนำเข้าหลักเป็นรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะยังคงเห็นความผันผวนของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างต่อเนื่อง หากผู้ประกอบการยังดำเนินธุรกิจผ่านสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของธุรกิจผันผวนควบคุมได้ยาก ทีทีบีจึงแนะนำโซลูชันเพื่อการบริหารความเสี่ยงค่าเงินผ่าน ttb Local Currency Solutions  ด้วยบริการจัดการธุรกรรมผ่านสกุลเงินท้องถิ่นครอบคลุมเงินสกุลท้องถิ่นของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยกว่า 90% ครอบคลุมมากกว่า 18 สกุลเงินท้องถิ่นหลักทั่วโลก โดยมี 3 สกุลเงินใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อตอบโจทย์การขยายโอกาสทางการค้าไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ ริยาลซาอุดิอาระเบีย (SAR) ริยาลกาตาร์ (QAR) และเปโซเม็กซิโก (MXN)