'ธนกร'มอบนโยบายSME D Bank เป็น'คู่คิด-คู่พัฒนา' ให้เอสเอ็มอีไทยยืนได้ด้วยตนเอง

'ธนกร'มอบนโยบายSME D Bank เป็น'คู่คิด-คู่พัฒนา' ให้เอสเอ็มอีไทยยืนได้ด้วยตนเอง

วันพุธ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 17.41 น.

'ธนกร'มอบนโยบาย SME D Bank เป็นทั้ง “คู่คิด” และ “คู่พัฒนา” ให้เอสเอ็มอีไทยยืนได้ด้วยตนเอง พร้อมเปิดโครงการ “ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง มั่นใจ โครงการคนละครึ่งพลัสของนายกฯ ถูกใจประชาชนแน่นอน 

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบนโยบายแก่บุคลากร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) สาขา นครศรีธรรมราชว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และทรัพยากรธรรมชาติ เป็นศูนย์กลางของภาคใต้ตอนบนที่มีฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ทั้งเกษตรกรรม การแปรรูปสินค้าเกษตร และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมถึงเป็นแหล่งพลังงานชีวมวล และอุตสาหกรรมอาหารที่สำคัญของประเทศ ซึ่งสามารถต่อยอดสู่ตลาดระดับประเทศและตลาดโลกได้ หากได้รับการสนับสนุนด้านทุน ความรู้ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมจึงกำหนดการดำเนินงานภายใต้นโยบาย “ฝ่า ฟัน ดึง ดัน” SME D Bank จึงต้องทำหน้าที่เป็นทั้ง “คู่คิด” และ “คู่พัฒนา” เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยสามารถยืนได้ด้วยตนเองอย่างมั่นคง


ต่อมาเวลา 13.30 น. นายธนกรร่วมพิธีเปิดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการ “ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ณ ศาลาประชาคมอำเภอจุฬาภรณ์ หมู่ที่ 4 ตำบลสามตำบล อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ นายธนกร กล่าวช่วงหนึ่งว่า โครงการ “ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน” เป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง มีรายได้มั่นคง และสามารถเติบโตได้ด้วยศักยภาพของตนเอง โครงการนี้คือการสร้างโอกาสให้ชุมชนได้เรียนรู้ ลงมือทำจริง และนำองค์ความรู้ไปต่อยอดเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน ทั้งในด้านการผลิต การตลาด การบริหารจัดการ และการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้เศรษฐกิจชุมชนของไทยเติบโตอย่างมั่นคงจากฐานรากอย่างแท้จริง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งสร้างเศรษฐกิจเข้มแข็งจากฐานราก เพิ่มรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการพัฒนาอย่างเท่าเทียม เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากของไทยเติบโตอย่างมั่นคง และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

จากนั้นเวลา 17.00 น. นายธนกรร่วมพิธีเปิดงานโครงการจัดงานประเพณีชักพระ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ณ ที่ว่าการอำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนายธนกร กล่าวว่า งานประเพณีชักพระ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ถือเป็นประเพณีสำคัญของพี่น้องชาวภาคใต้ สะท้อนถึงความศรัทธา ความสามัคคี และภูมิปัญญาท้องถิ่น อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรรักษาไว้ให้คงอยู่คู่สังคมไทย การจัดงานในวันนี้นอกจากจะเป็นการสืบสานศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม ยังเป็นการสร้างความภาคภูมิใจและความร่วมมือของคนในชุมชน รวมทั้งช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตควบคู่กับความยั่งยืนทางสังคมและวัฒนธรรม ยืนยันว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก และเศรษฐกิจวัฒนธรรม เพราะเชื่อว่าวัฒนธรรมคือพลังสำคัญในการสร้างอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน

นายธนกร ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการคนละครึ่งพลัส วงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ จำนวนไม่เกิน 44,000 ล้านบาทด้วยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีแนวคิดที่จะดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัสเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนที่มีกำลังซื้อ ช่วยรักษาระดับการบริโภคในประเทศ และเพิ่มสภาพคล่องให้กับร้านค้ารายย่อยต่างๆ เชื่อว่าการตัดสินใจของท่านนายกฯ เป็นการตัดสินใจที่ถูกใจประชาชนอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาโครงการคนละครึ่งได้รับการชื่นชมจากประชาชนอย่างมาก เกิดการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยฟื้นเศรษฐกิจของประเทศหลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนทั่วโลกให้การยอมรับมาแล้ว 

สำหรับมาตรการป้องกันการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น นายธนกร กล่าวว่า อยากขอให้ประชาชนและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ท่านนายกฯ ตั้งไว้คือ บรรเทาความเดือดร้อนด้วยการลดภาระค่าจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้น ห้ามคิดทุจริต เช่น แลกเป็นเงินสด อย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย หากรัฐบาลตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางราชการ และถูกเพิกถอนสิทธิอีกด้วย เพราะท่านนายกฯ เด็ดขาดกับคนทุจริตอย่างแน่นอน

'หากต้องการให้รัฐบาลดำเนินโครงการดีๆ แบบนี้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ก็ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับรัฐบาลอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ แม้เวลาของรัฐบาลชุดนี้จะมีเวลาทำงานแค่ 4 เดือน แต่สิ่งดีๆ ที่ท่านนายกฯ คิดทำเพื่อประชาชนนั้น จะต้องถูกพูดถึงไปอีกนาน' นายธนกร กล่าว.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top