นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้สอดคล้อง
กับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการมุ่งวางรากฐานสู่อุตสาหกรรมอนาคต สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงเทคโนโลยี พัฒนาทักษะแรงงาน และส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตและชีวเศรษฐกิจ เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ขณะเดียวกัน ยังมุ่งรับมือปัญหาเร่งด่วนจากสงครามการค้าและมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) โดยช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ เสริมสภาพคล่องด้วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ป้องกันการทุ่มตลาด และยกระดับระบบตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าแบบดิจิทัล (ROO Digital + Traceability) เพื่อสร้างการแข่งขันที่โปร่งใสและยั่งยืน
ดังนั้นมหกรรม ดีพร้อมเสน่ห์ไทย : Thai Vibe by DIPROM จึงไม่ใช่แค่พื้นที่ในการแสดงสินค้าเท่านั้น แต่เป็นเวทีสำคัญในการยกระดับผู้ประกอบการไทย สร้างโอกาสทางธุรกิจ เสริมทักษะการแข่งขันที่โปร่งใส และผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่เวทีโลก พร้อมสร้างความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยให้คนรุ่นใหม่
‘กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่เพียงแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ต้องการสร้างอนาคตใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับโลก สร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนรวมไปถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน’นายธนกรกล่าว
ด้าน นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM) จัดขึ้นในรูปแบบการผสมผสานเพื่อแสดงความรู้และเสน่ห์ของอาหารไทย ศิลปะไทย และแฟชั่นเครื่องแต่งกายไทยในแง่มุมที่มีเอกลักษณ์และสัมผัสได้ ไม่เพียงแค่การจำหน่ายสินค้า แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้เชื่อมโยงกับผู้บริโภคโดยตรง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลอง สัมผัส และรับรู้ถึงคุณค่าของสินค้าไทย ซึ่งจะช่วยสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ และเพิ่มยอดขายรวมถึงฐานลูกค้าในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นจึงมอบหมายให้ดีพร้อมจัดงาน มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM) โดยยกระดับให้เป็นเทศกาลไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยที่สะท้อนเสน่ห์ของไทย สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ผู้เข้าร่วมงาน เปิดโอกาสให้ได้เพลิดเพลินไปกับการแสดงประจำท้องถิ่นในแต่ละภาค และดื่มด่ำกับความงดงามของจุด Landmark ที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยในแต่ละโซน
"งานนี้ไม่ใช่แค่งานแสดงสินค้าธรรมดา แต่เป็นเทศกาลไลฟ์สไตล์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของอาหารไทยต้นตำรับ ความงามของแฟชั่นไทยร่วมสมัย หรือฝีมือช่างที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทย โดยกระทรวงฯ คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานตลอดระยะเวลา 3 วัน ไม่น้อยกว่า 30,000 คน และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท เป็นการตอกย้ำบทบาทสำคัญของทางกระทรวงฯ และดีพร้อมในฐานะหน่วยงานที่ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวทีโลก" นายณัฐพล กล่าว
มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย(Thai Vibe by DIPROM) ครั้งนี้ประกอบด้วย 4 มิติหลัก ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มไทย ชิมรสชาติอาหารไทยแท้จากเชฟชุมชนทั่วทุกภาค พร้อมเครื่องดื่มไทยที่ผสมผสานความร่วมสมัย จากโครงการหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเชฟอาหารไทย ที่กำลังยกระดับอาหารถิ่นไทยสู่มาตรฐานสากล แฟชั่นไทย สัมผัสเสน่ห์ของเครื่องแต่งกายไทยที่ผสมผสานความร่วมสมัยกับเอกลักษณ์ดั้งเดิม จากฝีมือผู้ประกอบการ SMEs ที่พร้อมก้าวสู่เวทีโลก ศิลปะและการออกแบบ ชมฝีมือช่างไทยที่ทรงคุณค่า และจุด Landmark ที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยในแต่ละโซน ที่ถ่ายรูปสวยได้ทุกมุม สุขภาพและวิถีชีวิตแบบไทย เรียนรู้ภูมิปัญญาไทยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่สร้างสรรค์จากนวัตกรรมไทย
นอกจากนี้ภายในงานยังมี 4 โซนที่เป็นไฮไลต์พิเศษ 1) โซนDIPROM Pavilion พื้นที่หลักของงานจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Empowering Local, Elevating Global’ นำเสนอผลงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากชุมชน พร้อมกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ด้านอาหาร เช่น การสาธิตการทำอาหาร และการเรียนรู้เรื่องเสน่ห์ของวัตถุดิบไทย 2) โซน Soft Power จาก 4 ภูมิภาคโซนจำลองบรรยากาศและสถาปัตยกรรมท้องถิ่นของภาคเหนือ ภาคกลางและตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ พร้อมคัดเลือกร้านอาหารชื่อดังและเมนูเด็ดที่เป็น ‘Hidden Gems’ ของแต่ละภาคเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลิ้มลอง 3) โซนเสน่ห์ไทย Café พื้นที่นำเสนอเมนูเครื่องดื่มสุดสร้างสรรค์จากวัตถุดิบหลักอย่างกาแฟ ชา และโกโก้ ซึ่งแสดงถึงอัตลักษณ์ของแหล่งปลูกแต่ละแห่ง ผ่านการนำเสนอในรูปแบบของการชงและชิม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ค้นพบรสชาติที่ถูกใจ 4) โซนดีพร้อมแฟชั่น พื้นที่แสดงความหลากหลายของงานแฟชั่นไทยตั้งแต่ผ้าไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นการสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งกายสไตล์ไทยที่สามารถนำไปใช้ได้จริง นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานยังจะได้เพลิดเพลินไปกับมินิคอนเสิร์ตและการแสดงประจำท้องถิ่นจากทั่วทุกภาคของประเทศที่จะหมุนเวียนสร้างสีสันตลอดทั้ง 3 วัน พร้อมกิจกรรมเวิร์กช็อป
ที่ให้ทุกคนได้ลงมือสัมผัสและเรียนรู้ฝีมือช่างไทยด้วยตัวเอง
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี