จับกระแสพลังงาน : 14 ตุลาคม 2568

จับกระแสพลังงาน : 14 ตุลาคม 2568

วันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

** บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (13 ต.ค. – 17 ต.ค. 68)….โดยระบุว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวนเนื่องจากแรงกดดันด้านอุปทานและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิต 137,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ย. 68 และอาจขยายการผลิตเพิ่มเติมในเดือนถัดไป ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันเผชิญแรงกดดันจากภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่สามารถตกลงร่างงบประมาณชั่วคราวได้ ส่งผลให้พนักงานรัฐหลายแสนคนถูกพักงาน อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากจีนที่เร่งสร้างแหล่งน้ำมันดิบสำรองใหม่ 11แห่ง เพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน ขณะที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีสัญญาณคลี่คลายเนื่องจากอิสราเอลและฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระยะแรก ซึ่งอาจช่วยลดแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ในระยะสั้น ทั้งนี้ ตลาดยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปลายเดือน ต.ค. 68 ท่ามกลางคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว...ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 62-72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…

** นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน...ระบุว่าคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ที่จะมีการประชุมภายในเดือนตุลาคม นี้ ซึ่งจะมีวาระสำคัญ...เช่นการแต่งตั้งคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ  ที่ประธานคณะกรรมการได้ยื่นหนังสือลาออก เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่แทน…โดยนายอรรถพล ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นการเสนอให้ กพช.ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ หรือ การเสนอให้มีการทบทวนมติ กพช. เพื่อกลับไปใช้กระบวนการจัดทำแผน แบบที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ที่มีปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานคณะอนุกรรมการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า ที่อยู่ภายใต้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ( กบง.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ซึ่งนายอรรถพล เห็นว่าในการจัดทำแผนPDP ฉบับใหม่ควรจะต้องมีปลัดกระทรวงพลังงานคือ นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ เข้ามาอยู่ร่วมในคณะกรรมการด้วย...สำหรับการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับใหม่ ...เพื่อ รองรับเป้าหมาย Net Zero 2050 โดยจะต้องมีการจัดทำพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าใหม่  การเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้นจากแผน PDP2018 rev1 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน...!! มีการคาดการณ์กันว่าการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ มีความเป็นไปได้สูงที่ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) จะใช้ร่าง PDP 2024  ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ มาปรับปรุงเพิ่มเติม เนื่องจากมีหลักการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย  Net Zero 2050  เพียงแต่ต้องมีการจัดทำค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าใหม่ พร้อมทั้งนำโครงการที่มีการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามมติ กพช. หรือ ที่อยู่นอกแผนPDP2018 rev1 เข้ามาอยู่ในแผนPDP ฉบับใหม่ เสียก่อนจึงจะทราบว่า ควรจะมีการรับซื้อไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง...


** ตามที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ร่วมกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ดำเนินการออกพันธบัตรส่งเสริมความยั่งยืน หรือ Sustainability-Linked Bond (SLB) อายุ 5 ปี วงเงิน 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1.40 % ต่อปี กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน โดยมี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประกันการจำหน่าย เป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงิน เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investor : II) เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา...พบว่าได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม มีนักลงทุนเข้าเสนอซื้อพันธบัตรรวมทั้งสิ้น 6,576 ล้านบาท มากกว่าวงเงินที่เสนอขาย (Bid Coverage Ratio) ถึง 3.29 เท่า...

**  บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ....รับมอบรางวัล Climate Action Excellence ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดภายใต้การประกวด Climate Action Awards 2025  .... โดย ปตท.สผ. ได้รับรางวัลดังกล่าวจากความโดดเด่นในการดำเนินงานด้าน Climate Action ซึ่งสะท้อนถึงการให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และการเป็นแบบอย่างที่ดีในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) โดยมีโครงการสำคัญต่าง ๆ ที่สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น โครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage: CCS) ที่โครงการอาทิตย์ การปลูกและบำรุงรักษาป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ฯลฯ…การมอบรางวัลมีขึ้นภายในงานสัมมนาวิชาการ CCI Climate Change Forum 2025 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Institute: CCI) เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แนวปฏิบัติ และนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งผลักดันความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและเป้าหมาย Net Zero Emissions ...

**  ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม ซึ่งพัฒนาและบริหารงานโดย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)EGCO Group คว้า “รางวัลแห่งความยั่งยืน” ประเภทแหล่งท่องเที่ยว จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี 2568 จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษที่มอบครั้งแรกในปีนี้ให้แก่ผู้ประกอบการที่มีความยอดเยี่ยมและผ่านเกณฑ์ด้านการบริหารจัดการความยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่า 90% รางวัลนี้ตอกย้ำศักยภาพของศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ในภาคใต้ ที่เปลี่ยนโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย มาเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านไฟฟ้าและพลังงานที่อยู่ร่วมกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ในอำเภอขนอมและภาคใต้ อย่างเกื้อกูลและยั่งยืน…ในเบื้องต้น ก่อนที่ศูนย์เรียนรู้ฯ จะได้รับ “รางวัลแห่งความยั่งยืน” ต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน STGs STAR โดยศูนย์เรียนรู้ฯ ได้รับการประเมินระดับสูงสุด 5 ดาว ซึ่งเกณฑ์ STGs STAR เป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของ ททท. โดยครอบคลุม 4 มิติหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคมและชุมชน สิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการ...**

 

** กระบองเพชร**

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top