ต่างชาติขายหุ้นกว่าแสนล้าน รายย่อยเก็บหุ้นเข้าพอร์ต 1.3 แสนล้าน

ต่างชาติขายหุ้นกว่าแสนล้าน รายย่อยเก็บหุ้นเข้าพอร์ต 1.3 แสนล้าน

วันอาทิตย์ ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 15.52 น.

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-17 ตุลาคม 2568 แยกเป็นสถาบันในประเทศขายสุทธิ 6,503.16 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 20,861.66  ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 103,356.71  ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 130,721.52 ล้านบาท

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาพรวมตลาดหุ้นช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา SET Index ร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังล่าสุดจีนมีมาตรการคุมเข้มการส่งออกแร่หายาก และสหรัฐฯ ประกาศจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติม ปัจจัยลบดังกล่าวกระตุ้นแรงขายหุ้นหลายกลุ่ม ขณะที่กลุ่มพลังงานมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลง


อย่างไรก็ดีดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยมีแรงหนุนจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจนัดแรก ซึ่งเพิ่มความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ประกอบกับตลาดมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ปัจจัยบวกข้างต้นช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มแบงก์ที่มีแรงซื้อเก็งกำไรก่อนการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2568 อย่างไรก็ดี SET Index พลิกกลับมาร่วงลงแรงอีกครั้งช่วงท้ายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลประเด็นความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐฯ ที่ยังคงยืดเยื้อ

ในวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม  2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,274.61 จุด ลดลง 0.96% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 39,738.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.67% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 3.87% มาปิดที่ระดับ 233.02 จุด

สัปดาห์หน้า (20-24 ตุลาคม 2568) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,265 และ 1,230 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,315 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ สถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐฯ และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกันยายนของญี่ปุ่น ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนตุลาคม(เบื้องต้น) ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษและสหรัฐฯ ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนตุลาคมและข้อมูลเศรษฐกิจเดือนกันยายนของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร

-033

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top