ก.ล.ต.กำหนดหลักเกณฑ์คุมเข้มมาร์จิ้นโลน

ก.ล.ต.กำหนดหลักเกณฑ์คุมเข้มมาร์จิ้นโลน

วันจันทร์ ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Loan) หรือ มาร์จิ้นโลน ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เพื่อให้ บล. มีการบริหารความเสี่ยงสำหรับการให้บริการมาร์จิ้นโลนอย่างเหมาะสม ลดความเสียหายต่อ บล. และสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนโดยรวม และกำหนดให้ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาฯ ไม่ให้บริการที่เข้าข่ายเป็นการให้กู้เงินโดยมีหลักทรัพย์เป็นประกันที่ไม่จำกัดวัตถุประสงค์การใช้เงิน (Loan Against Securities)

สำนักงาน ก.ล.ต. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับมาร์จิ้นโลนและกำหนดให้ บล.และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาฯไม่ให้บริการที่เข้าข่ายเป็นการให้กู้เงินโดยมีหลักทรัพย์เป็นประกันที่ไม่จำกัดวัตถุประสงค์การใช้เงิน(Loan Against Securities) เพื่อให้ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาฯ มีการให้บริการและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม และสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนโดยรวม โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้


(1) ปรับปรุงอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น (Initial Margin) ของหุ้นจดทะเบียนที่ออกและเสนอขายหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก (หุ้น IPO) เพื่อลดความเสี่ยงที่หลักประกันจะไม่เพียงพอกับการชำระหนี้

(2) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การปล่อยกู้ให้สอดคล้องกับฐานะของ บล.โดยกำหนดยอดหนี้คงค้างจากการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์แก่ลูกค้าทุกรายรวมกันและแก่ลูกค้ารายใดรายหนึ่งให้รัดกุมขึ้น

(3) กำหนดให้ บล. มีมาตรการบริหารความเสี่ยงกรณีพบการกระจุกตัวของหุ้นที่ลูกค้านำมาวางเป็นหลักประกัน เช่น กำหนดระดับการกระจุกตัวของหลักประกันและการติดตามคุณภาพและการกระจุกตัวของลูกหนี้ เพื่อการติดตามและรายงานความเสี่ยง รวมถึงแก้ปัญหาได้ทันท่วงที

(4) กำหนดประเภทหน่วยลงทุน (daily redemption fund) ของกองทุนรวมที่สามารถวางเป็นหลักประกัน และเป็นหลักทรัพย์ที่ให้กู้ยืมเพื่อซื้อในบัญชีมาร์จิ้นได้ (marginable securities) ได้แก่ กองทุนรวมดัชนี กองทุนรวมหน่วยลงทุน และกองทุนรวมฟีดเดอร์ซึ่งมีลักษณะเป็นไปตามที่กำหนด สำหรับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น กองทุนรวมอีทีเอฟ ถือเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนสามารถใช้วางเป็นหลักประกัน และ marginable securities ได้ตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน

(5) กำหนดให้ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาฯ ต้องไม่ให้บริการที่อาจเข้าข่ายเป็นการให้กู้ยืมเงินโดยมีหลักทรัพย์เป็นหลักประกันที่ไม่จำกัดวัตถุประสงค์การใช้เงิน (Loan Against Securities) โดยให้พิจารณาจากข้อเท็จจริงหรือสาระที่แท้จริง(substance)ของธุรกรรมนั้นเป็นสำคัญ ไม่ว่าธุรกรรมดังกล่าวจะมีลักษณะหรือรูปแบบใดก็ตาม

หลักเกณฑ์ดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ยกเว้นหลักเกณฑ์ตาม (2) จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2569 สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มียอดหนี้คงค้างเกินกว่าเกณฑ์กำหนดก่อนประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ให้มีระยะเวลาเพื่อแก้ไขให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top