บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินระดับประเทศ เปิดเผยข้อมูลการใช้งานระบบ “พร้อมเพย์” (PromptPay) ประจำเดือนกันยายน 2568 พบว่ายอดธุรกรรมยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของระบบการเงินดิจิทัลในประเทศไทยที่มีความเสถียร มั่นคง และเป็นที่เชื่อมั่นของผู้ใช้ทุกภาคส่วน
ยอดธุรกรรมเติบโตต่อเนื่อง แม้เข้าสู่ช่วงปลายไตรมาส
เดือนกันยายน 2568 มียอดธุรกรรมรวมทั้งสิ้น 2.16 พันล้านรายการ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (1.97 พันล้านรายการ) คิดเป็นอัตราการเติบโต 10% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่มูลค่าธุรกรรมรวมอยู่ที่ 4.20 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4.07 ล้านล้านบาทในปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นการเติบโต 3% แม้ตัวเลขการเติบโตจะชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังถือเป็นสัญญาณบวกของพฤติกรรมการใช้จ่ายแบบดิจิทัลที่คงที่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปและธุรกิจขนาดกลาง–ขนาดเล็ก (SMEs) ที่ใช้พร้อมเพย์เป็นช่องทางหลักในการโอนเงิน รับชำระค่าสินค้า และบริหารสภาพคล่องรายวัน
ยอดการลงทะเบียนแตะ 81.53 ล้านเลขหมาย
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 ยอดการลงทะเบียนพร้อมเพย์รวมอยู่ที่ 81.53 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็น
-ภาคประชาชน 81.16 ล้านเลขหมาย
-ภาคธุรกิจ 0.37 ล้านเลขหมาย
โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความไว้วางใจในระบบที่ปลอดภัยและสะดวก โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานอิสระ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และผู้ประกอบการขนาดเล็กที่เลือกใช้พร้อมเพย์เป็นบัญชีหลักในการรับ–จ่ายเงินแบบเรียลไทม์
วันที่มียอดธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์สูงสุดของเดือนกันยายน 2568
เดือนกันยายน 2568 มียอดธุรกรรมสูงสุดอยู่ที่ 78.32 ล้านรายการ ในวันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นวันทำการแรกของเดือนหลังวันหยุดสุดสัปดาห์ สะท้อนพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมทำธุรกรรมช่วงต้นเดือน เช่น การโอนเงินเดือน ชำระค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค และการโอนชำระของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการโอนเงินระหว่างบัญชีส่วนบุคคล (P2P) และธุรกิจขนาดเล็ก (SME Payments) ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน พฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า “พร้อมเพย์” ได้กลายเป็นระบบการชำระเงินประจำวันของคนไทยอย่างแท้จริง ซึ่งถูกใช้ในทุกช่วงเวลาของชีวิตประจำวัน ทั้งการใช้จ่าย ค้าขาย และการหมุนเวียนทางการเงินของธุรกิจในระดับฐานราก
Cross-Border QR Payment เติบโตต่อเนื่อง สะท้อนศักยภาพระบบชำระเงินดิจิทัลไทยเชื่อมภูมิภาค
บริการ Cross-Border QR Payment ยังคงเติบโตแข็งแกร่งและมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค โดยในเดือน กันยายน 2568 มูลค่าธุรกรรมขาเข้า (Inbound Transaction Value) รวมอยู่ที่ 396.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 255.33 ล้านบาทในเดือนเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 55% เมื่อเทียบรายปี (YoY)
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความนิยมและความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยและเลือกใช้ระบบการชำระเงินผ่าน Cross-Border QR Payment ซึ่งให้ความสะดวก ปลอดภัย และมีต้นทุนการแลกเปลี่ยนที่ต่ำกว่าการใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตแบบเดิม
ประเทศที่มียอดใช้จ่ายผ่าน Cross-Border QR Payment ขาเข้าสูงสุด 3 อันดับแรกของเดือนกันยายน 2568 ได้แก่
1.มาเลเซีย – มูลค่าธุรกรรม 245.81 ล้านบาท
2.ลาว – มูลค่าธุรกรรม 54.62 ล้านบาท
3.อินโดนีเซีย – มูลค่าธุรกรรม 41.12 ล้านบาท
กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนยังคงเป็นกลุ่มผู้ใช้หลักของบริการนี้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียที่มีสัดส่วนธุรกรรมมากกว่า 50% ของมูลค่ารวมทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับสถิติการเดินทางเข้าไทยที่เพิ่มขึ้นหลังจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบในช่วงปีที่ผ่านมา
มูลค่าธุรกรรมในเดือนกันยายน 2568 จึงไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพของระบบพร้อมเพย์ในฐานะ “โครงสร้างพื้นฐานหลักของการชำระเงินดิจิทัลของประเทศ” แต่ยังแสดงถึงบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางการเชื่อมต่อระบบการเงินดิจิทัลในภูมิภาค NITMX ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบให้มีความทันสมัย ปลอดภัย และรองรับการเชื่อมโยงธุรกรรมระหว่างประเทศที่ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี