วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แหล่งข่าวจากผู้ผลิตเหล็กในประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตในประเทศ ผู้รับเหมาก่อสร้าง และผู้บริโภคทั่วไป กำลังเกิดความกังวลว่าจะมีเหล็กเส้นคุณภาพต่ำ (เหล็กเบา) หลุดเข้ามาในตลาดอีกครั้ง หลังจากที่หายไปจากระบบระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากการเอาจริงเอาจังของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ ทีมงานตรวจสอบ “สุดซอย” ได้ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพเหล็กเส้นก่อสร้าง เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต และ โรงงานผู้ผลิตเหล็กเส้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้มีการยึดอายัดเหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานมากถึงเกือบแสนตัน และมีการสั่งปิดโรงงานชั่วคราว สำหรับโรงงานผลิตเหล็กที่มาตรฐานในการจัดการความปลอดภัยและการจัดการสิ่งแวดล้อมไปแล้วหลายราย
โดยความเป็นกังวลของหลายส่วนที่เกี่ยวข้องข้างต้น เกิดจากเห็นท่าทีของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในปัจจุบันไม่มีท่าทีหรือนโยบายที่ชัดเจน ที่จะควบคุมเหล็กที่ไม่ได้คุณภาพ และไม่เข้มงวดในการกวดขันโรงงานเหล็กยังขาดมาตรฐานด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม ทั้งบางรายยังไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เหล็กเส้นเสริมคอนกรีตอย่างเคร่งครัดครบถ้วน
ซ้ำร้ายกว่านั้นขณะนี้เกิดกระแสข่าวในวงการเหล็กว่าโรงงานที่ถูกสั่งปิดดังกล่าว กำลังพยายามขออนุญาตกระทรวงอุตสาหกรรมกลับมาเปิดดำเนินการใหม่อีกครั้ง โดยการเข้าหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และพยายามจูงใจด้วยวิธีการบางอย่าง เพื่อขอให้ กระทรวงอุตสาหกรรม อนุญาตให้กลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง บางกระแสข่าวว่ากันถึงขนาดว่า รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมยุคนี้มีภารกิจหลักที่จะมา “ปล่อยผี” โรงงานเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานกลุ่มนี้ด้วยซ้ำไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสข่าวดังกล่าว ทำให้ 10 สมาคมผู้ผลิตเหล็กภายในประเทศ มีความห่วงใยเป็นอย่างมาก และเตรียมที่จะยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เรื่อง การพิจารณาอนุญาตการประกอบกิจการของผู้ผลิตเหล็กเส้นที่ถูกสั่งปิดโรงงานชั่วคราว
โดยในหนังสือร้องเรียนดังกล่าว มีใจความสำคัญระบุว่า สืบเนื่องจากการเข้าตรวจสอบโรงงานผู้ผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตโดยกระทรวงอุตสาหกรรมในช่วงเวลาที่ผ่าน มา พบว่ามีการผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ขาดมาตรฐานในการ จัดการความปลอดภัยและการจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งในขณะนี้โรงงานผู้ผลิตจำนวนหนึ่งยังคงถูกคำสั่งของกระทรวง อุตสาหกรรมให้ปิดโรงงานชั่วคราว โดยล่าสุดทราบว่าโรงงานที่ถูกสั่งปิดดังกล่าว กำลังพยายามขออนุญาตกระทรวง อุตสาหกรรมกลับมาเปิดดำเนินการใหม่อีกครั้ง
ซึ่งในเรื่องนี้กลุ่ม10 สมาคมผู้ผลิตเหล็กภายในประเทศมีความห่วงใยเป็น อย่างมากว่า หากมีการอนุญาตให้โรงงานเหล่านี้กลับมาผลิตสินค้าด้วยการปฏิบัติแบบเดิมๆ ก็จะจะมีสินค้าเหล็กเส้น เสริมคอนกรีตไม่ได้มาตรฐานกระจายออกสู่ตลาดอีกครั้ง ซึ่งจะกลับไปสร้างความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของประชาชน และการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ผลิตสินค้าที่เป็นไปตามมาตรฐาน
ทั้งนี้จากข้อมูลการเข้าตรวจสอบโรงงานของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ผ่านมา พบว่าโรงงานที่ถูกระงับการประกอบ กิจการดังกล่าว ใช้กระบวนการหลอมด้วยเตา Induction Furnace (IF) ซึ่งข้อจำกัดของเตาหลอมประเภทนี้ คือ ไม่มีระบบออกซิเดชัน (Oxidation) และการสร้างสแลก (slag) สำหรับกำจัดหรือดูดซับสารมลทิน เช่น ฟอสฟอรัส กำมะถัน และสิ่งเจือปนที่มากับเศษเหล็ก เช่น โบรอน เป็นต้นเหตุทำให้ควบคุมคุณสมบัติทางเคมี ตลอดจนปริมาณของสารมลทินและ สิ่งเจือปนได้ยาก จึงต้องมีกระบวนการคัดเลือกเศษเหล็กที่ใช้เป็นวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน และเตรียมเศษเหล็กที่สะอาด และต้องมีการเติมส่วนผสมทางเคมีด้วยธาตุต่างๆลงไปในกระบวนการหลอมอย่างแม่นยำ และจะต้องมีกระบวนการ ปรับปรุงคุณภาพน้ำเหล็กด้วยเตาปรุงน้ำเหล็ก (Ladle Furnace)
แต่ปรากฏว่าโรงงานกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ไม่มีเตาปรุงน้ำ เหล็กให้บริสุทธิ์ (Ladle Furnace) กล่าวคือมีเพียง 2 โรงงานเท่านั้นที่มีเตาปรุง แต่มิได้มีการใช้งานในการผลิตอย่าง สม่ำเสมอแต่อย่างใด สิ่งที่เป็นประจักษ์พยานอีกอย่างหนึ่งคือการตก มอก. ที่ผ่านมาของบางโรงงานมีสาเหตุหลักจากไม่ สามารถควบคุมส่วนผสมทางเคมี เช่น ค่าโบรอนให้เป็นไปตาม มอก.ได้
ดังนั้นกลุ่ม 10 สมาคมผู้ผลิตเหล็กภายในประเทศ จึงใคร่ขอเรียนเสนอให้กระทรวงอุตสาหกรรมได้โปรดพิจารณา การที่จะอนุญาตให้โรงงานที่ถูกสั่งปิดดังกล่าวที่จะขอกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ มอก. เหล็กเส้นเสริมคอนกรีตอย่างเคร่งครัดครบถ้วน โดยเฉพาะข้อกำหนดด้านวัสดุ การทำ และส่วนประกอบทางเคมี ที่กำหนดใน มอก. 20-2559 และ มอก. 24-2559 ข้อ 5.2 - ข้อ 5.5. ดังนี้ 5.2 การทำเหล็กแท่งเล็ก หรือเหล็กแท่งใหญ่ ใช้ทำเหล็กข้ออ้อย ต้องมีขั้นตอนกรรมวิธีการทำและการควบคุมเป็นส่วนประกอบ หนึ่ง ดังต่อไปนี้
1.มีระบบคัดแยก ตรวจสอบประเมินคุณภาพเศษเหล็ก (scrap) โดยมีการตรวจสอบควบคุมปริมาณของธาตุฟอสฟอรัสและ กำมะถันที่เจือปนอย่างเข้มงวด 2.มีการตรวจสอบคุณภาพส่วนประกอบทางเคมีของน้ำเหล็กในทุกขั้นตอนของกระบวนการทาเหล็กกล้า (steel making) โดยใช้ เครื่องมือตรวจสอบที่มีมาตรฐาน 3.มีกระบวนการทำน้ำเหล็กให้บริสุทธิ์ (refining process) อย่างเหมาะสม เช่น มีเตาปรุง (ladle furnace) หรือการลดฟอสฟอรัส และการลดกำมะถันรวมทั้งปรับแต่งค่าส่วนประกอบทางเคมี ขจัดสารฝังใน (inclusion)ได้อย่างเหมาะสม
4.การหล่อเหล็กแท่งเล็ก หรือ เหล็กแท่งใหญ่ ต้องเป็นการหล่อแบบต่อเนื่อง (continuous casting) ที่มีอัตราการหล่ออย่างน้อย 10000 kg/hr และมีการควบคุมอัตราการเย็นตัว (cooling rate) ที่เหมาะสม มีขนาดของเตาหลอมไม่ต่ำกว่า 5000 kg ต่อ 1 เตา และมีความถี่ในการทดสอบส่วนประกอบทางเคมีที่เหมาะสม มอก. 5.3โรงงานที่ทำเหล็กแท่งเล็ก หรือ เหล็กแท่งใหญ่ และเหล็กข้ออ้อย ต้องมีมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี มอก. 5.4 เหล็กแท่งเล็ก หรือ เหล็กแท่งใหญ่ ที่ใช้ทำเหล็กข้ออ้อย อย่างน้อยต้องมีการตรวจสอบในรายการขนาด ลักษณะทั่วไป และ ส่วนประกอบทางเคมีที่เหมาะสม มอก. 5.5 เหล็กข้ออ้อยต้องเป็นเหล็กกล้าไม่เจือ เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้งานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตและสาธารณชนว่า สินค้าเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตที่ผลิตในประเทศไทย มีการปฏิบัติตามอย่างครบถ้วนตาม มอก. ซึ่งการกำหนดมาตรฐานคุณภาพเหล็กเป็นปัจจัย สำคัญต่อความมั่งคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆ ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงขอเรียนเสนอให้มีการบูรณาการการทำงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ สำนักงานมาตรฐานลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ในการตรวจสอบกระบวนการตามข้อกำหนดของ มอก. เพื่อตรวจสอบให้มีการปฏิบัติให้ครบถ้วนตามข้อกำหนดใน มอก. 20-2559 และ มอก. 24-2559 ข้อ 5.2-5.5 ดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องยืนยันว่ามีเตาปรุง Ladle Furnace ที่ใช้งานกับการผลิตทุก heat และเปิดเผยผลการตรวจสอบและ แผนการกำกับดูแลการผลิตต่อสังคมอย่างโปร่งใส ก่อนที่จะอนุญาตให้ประกอบกิจการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี