วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
กรมทรัพย์สินทางปัญญา น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการอนุรักษ์และสืบสานงานศิลปหัตถกรรมไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดิน โดยทรงส่งเสริมการพัฒนางานศิลปะและหัตถกรรมพื้นบ้านทั่วประเทศ ทั้งงานทอผ้าไหม งานจักสาน งานเครื่องเงิน และศิลปะเครื่องแต่งกายของไทย เพื่อยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก พร้อมต่อยอดผลงานเหล่านี้ให้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของชุมชน เพื่อให้ภูมิปัญญาไทยได้รับการคุ้มครอง และเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศอย่างยั่งยืน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์การทอผ้าพื้นเมือง และส่งเสริมให้ชาวบ้านรักษาลวดลาย สีสัน และกรรมวิธีดั้งเดิม เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น และต่อยอดเป็นทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อสร้างอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญลักษณ์นกยูงไทย 4 สี ให้เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ผ้าไหมแท้ที่ผลิตจากประเทศไทย
ทั้งนี้ประกอบด้วย 1.นกยูงสีทอง (Royal Thai Silk) สำหรับการรับรองผ้าไหมไทยแท้ระดับพรีเมียม ซึ่งผลิตด้วยเส้นไหมและกรรมวิธีดั้งเดิมตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน ,2.นกยูงสีเงิน (Classic Thai Silk) สำหรับการรับรองผ้าไหมไทยแท้ที่ทอขึ้นตามภูมิปัญญาพื้นบ้านผสมผสานกับการใช้เครื่องมือในบางขั้นตอน ,3.นกยูงสีน้ำเงิน (Thai Silk) สำหรับการรับรองผ้าไหมไทยแท้ที่ผลิตด้วยภูมิปัญญาของไทยแบบประยุกต์ ใช้เทคโนโลยีการผลิตให้เข้ากับสมัยนิยมและเป็นเชิงธุรกิจ และ 4.นกยูงสีเขียว (Thai Silk Blend) สำหรับการรับรองผ้าไหมไทยแท้ที่ผลิตด้วยกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยใช้เส้นไหมแท้ผสมผสานกับเส้นใยอื่นที่ได้จากธรรมชาติหรือเส้นใยสังเคราะห์รูปแบบต่างๆ ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน
โดยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองตรานกยูงพระราชทานต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ตามบทบัญญัติมาตรา 82 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และต่อมาได้มีการโอนสิทธิเครื่องหมายรับรองตรานกยูงพระราชทาน มายังกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2553 เพื่อเป็นหน่วยงานกำกับดูแลคุณภาพมาตรฐานการรับรองผ้าไหมไทย
ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้เครื่องหมายรับรองดังกล่าวให้แพร่หลายทั่วโลก จึงได้มีการจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองตรานกยูงพระราชทานในต่างประเทศอีก 35 ประเทศ ได้แก่ กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (27 ประเทศ) สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง อินเดีย นอร์เวย์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งสะท้อนมาตรฐานการผลิตและความพิถีพิถันของช่างทอผ้าไทยที่สืบทอดภูมิปัญญามาจากรุ่นสู่รุ่น และยังเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการผ้าไหมทั่วประเทศพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล เพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์ให้ผลิตภัณฑ์ไทย และปกป้องชื่อเสียงและภูมิปัญญาของไทยในเวทีโลก
นางอรมน กล่าวว่า ตรานกยูงพระราชทาน ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของผ้าไหมไทย แต่ยังเป็นเครื่องหมายแห่งพระเมตตาและพระวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ที่ทรงมุ่งมั่นยกระดับภูมิปัญญาไทยสู่ระดับนานาชาติ โดยส่งเสริมให้มีการออกแบบ สร้างสรรค์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเป็น “สินค้าทางวัฒนธรรม” ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์และอัตลักษณ์ของความเป็นไทย ถือเป็นรากฐานสำคัญของแนวคิดเศรษฐกิจฐานวัฒนธรรมของประเทศ
โดยสินค้าทางวัฒนธรรมตามแนวพระราชดำริของพระองค์ ที่ได้รับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญามีอยู่หลากหลายประเภท โดยเฉพาะผลงานภายใต้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเป็นผลงานลิขสิทธิ์ รวม 209 ผลงาน ได้แก่ งานศิลปกรรม (ประติมากรรมและศิลปะประยุกต์) 200 ผลงาน เช่น รูปปั้นคุณทองแดง เรือพระที่นั่งศรีประภัศรไชยจำลอง เชิงเทียนรูปดอกบัว เป็นต้น งานวรรณกรรม(งานนิพนธ์) 1 ผลงาน ได้แก่ บทร้อยกรอง “ศิลป์แผ่นดิน” คร่ำทอง งานโสตทัศนวัสดุ 1 ผลงาน ได้แก่ พระราชกรณียกิจสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “สืบสานตำนานไทย” งานอื่นๆ (กล่องถมเครื่องเงิน) 7 ผลงาน เช่น ฉากปักไหมน้อย เรื่อง อิเหนา ลายโคมหงสมณฑล
นอกจากนี้ยังมีผลงานที่ได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ 8 ฉบับ เช่น สบู่ไหมชนิดก้อนที่ใช้ผงไหมเซริซินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยกำจัดจุลินทรีย์บางชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง (สิทธิบัตรฉบับแรกที่ได้รับการจดทะเบียน เมื่อปี 2546) วิธีการผลิตวัสดุตกแต่งผิวปีกแมลงทับ เพื่อนำปีกแมลงทับมาประดิษฐ์เป็นเครื่องประดับชนิดต่างๆ (ปี 2547) องค์ประกอบข้าวปรุงหลายชนิด โดยมีส่วนผสมของข้าวกล้องขาวดอกมะลิ ข้าวกล้องหอมแดง ข้าวเหนียวกล้องและข้าวเจ้าขาวดอกมะลิ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ(ปี 2548) เครื่องผลิตเส้นไหมขัดฟัน (ปี 2555) เป็นต้น รวมทั้งจดทะเบียนสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ 31 ฉบับ เช่น งานออกแบบขัน ถาด จานรอง เชิงเทียน เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาและสินค้าทางวัฒนธรรมที่ช่วยเพิ่มพูนรายได้ สร้างอาชีพและความมั่นคงทางวัฒนธรรมได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้กรมฯได้ร่วมสืบสานพระราชปณิธาน และน้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนภารกิจด้านทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ซึ่งสินค้าที่มีความพิเศษ เป็นชื่อเสียงหรืออัตลักษณ์ของชุมชน โดยมีการขึ้นทะเบียนผ้า GI ไทยกว่า 17 รายการ อาทิ ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผ้าไหมที่ทอประดิษฐ์ลวดลายด้วยการขิดและการจก ใช้เส้นไหมตีเกลียวเป็นทั้งเส้นยืนและเส้นพุ่ง และมีเส้นไหมเพิ่มพิเศษในการทำให้เกิดลวดลายเป็นเอกลักษณ์ตามกรรมวิธีการผลิตที่สืบทอดกันมา ผ้าไหมยกดอกลำพูน ซึ่งเป็นผ้าไหมที่ทอยกลวดลายให้สูงกว่าผืนผ้า โดยการเลือกยกบางเส้นและข่มบางเส้นเพื่อให้เกิดลวดลาย โดยใช้ตะกอลอยและใช้เส้นไหมตีเกลียวเป็นทั้งเส้นยืนและเส้นพุ่ง รวมทั้งใช้เส้นไหมพิเศษทอยกลวดลายอย่างปราณีต เป็นต้น
นอกจากนี้กรมฯยังส่งเสริมการทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI เพื่อรักษามาตรฐานการผลิต ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่าได้รับของดีมีคุณภาพที่มาจากแหล่งผลิตโดยตรง รวมทั้งต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้า GI และผลักดันแหล่งผลิตให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนการส่งเสริมช่องทางการตลาดสินค้า GI ทั้งในและต่างประเทศ เช่น การจัดงาน GI Market การจำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำและแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมสร้างการรับรู้สินค้า GI ในต่างประเทศ โดยนำผ้าไหมยกดอกลำพูนและผ้าตีนจกแม่แจ่ม (เชียงใหม่) มาออกแบบชุดสวมใส่ให้กับประติมากรรมแมนเนแกน พิส ซึ่งเป็นรูปปั้นเด็กสัญลักษณ์ประจำกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เป็นต้น
ทั้งนี้ปัจจุบันสินค้าผ้า GI ทั้ง 17 รายการ กลายเป็นสินค้าเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดต่างๆ มีปริมาณการผลิตรวมกว่า 280,000 ชิ้นต่อปี และสามารถสร้างรายได้สู่ชุมชนรวมกว่า 490 ล้านบาทต่อปี ตอกย้ำภาพลักษณ์สินค้า GI ซึ่งถือเป็นสินค้าคุณภาพที่มีเอกลักษณ์ เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ช่วยสร้างอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน
“ในโอกาสนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นแม่ของแผ่นดิน และทรงเป็นต้นแบบในการสืบสานและเผยแพร่คุณค่าของงานหัตถศิลป์ให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยตราบนานเท่านาน อีกทั้งยังทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับช่างฝีมือและนักออกแบบรุ่นใหม่ในการพัฒนาและต่อยอดการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาสู่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและความเจริญมั่นคงของประเทศชาติสืบไป”นางอรมน กล่าว
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี