ศรีตรังคว้ามาตรฐาน FSC™ ครอบคลุมพื้นที่สวนยาง 100%

ศรีตรังคว้ามาตรฐาน FSC™ ครอบคลุมพื้นที่สวนยาง 100%

วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 10.34 น.

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า พื้นที่สวนยางของกลุ่มบริษัทศรีตรัง ซึ่งบริหารงานโดย บริษัท ศรีตรัง รับเบอร์ แอนด์ แพลนเทชั่น จำกัด (SRP) ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล FSC™ – C149411 ครอบคลุม 100% เพิ่มขึ้นจาก 70% ในปี 2565 โดย FSC™ (Forest Stewardship Council) ถือเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลกด้านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานการจัดการด้านป่าไม้อย่างยั่งยืน ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มบริษัทศรีตรังในการเสริมสร้างความยั่งยืน ภายใต้พันธกิจด้าน Traceability หรือการตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคว่าได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม และเป็นโอกาสในการยกระดับอุตสาหกรรมยางพาราไทยสู่เวทีโลก

โดยในปีนี้พื้นที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC™ ครอบคลุมเนื้อที่ 48,473.58 ไร่ ประกอบด้วย พื้นที่ปลูกยางพาราของ SRP พื้นที่ 41,303.58 ไร่ พื้นที่สวนยางที่ SRP ช่วยบริหารจัดการ 1,934.65 ไร่ รวมถึงพื้นที่ป่าชุมชนอีก 5,235.35 ไร่ ซึ่งมีแนวทางการดำเนินงานที่ได้มาตรฐานทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย การส่งเสริมการปลูกยางพาราอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและได้ผลผลิตดี การปรับปรุงโครงสร้างของดิน การให้ความรู้และคำแนะนำตามหลักวิชาการ การฝึกอบรมการกรีดยางที่ถูกวิธี มีการจ้างงานให้กับชุมชนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาความรู้ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย รวมทั้งการดูแลพื้นสวนยางโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ร่วมสนับสนุนการอนุรักษ์เพื่อความสมดุลของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่า เป็นต้น


“กลุ่มบริษัทศรีตรังเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยางพาราแบบครบวงจรรายแรกของโลกที่ได้รับรองมาตรฐาน FSC™ ครบทั้งห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ คือ การจัดการสวนป่าอย่างยั่งยืน (FSC™-FM) และการจัดการห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ (FSC™-COC) ซึ่งการขยายพื้นที่รับรอง FSC™-FM ในครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มบริษัทศรีตรัง และตอกย้ำถึงเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อันเป็นแนวทางสำคัญของโลกและเป็นทิศทางที่ภาคอุตสาหกรรมยางพาราไทยต้องให้ความสำคัญ ซึ่งเราจะพัฒนามาตรฐานการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านระบบการตรวจสอบย้อนกลับ เสริมสร้างความร่วมมือด้านความยั่งยืน ไปจนถึงการวิจัยและพัฒนาการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อพัฒนาสังคมและการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” นายวีรสิทธิ์กล่าว

 

-031

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top