‘DITP’แนะผู้ส่งออกไทยใช้ประโยชน์เส้นทางขนส่งคุนหมิง-ท่าบกท่านาแล้ง

‘DITP’แนะผู้ส่งออกไทยใช้ประโยชน์เส้นทางขนส่งคุนหมิง-ท่าบกท่านาแล้ง

วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 12.53 น.

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ล่าสุดได้รับรายงานจากนายกวิน วิริยพานิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ถึงกรณีที่จีนได้จับมือกับสปป.ลาว ในการผลักดันการค้าข้ามแดนผ่านเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน กับท่าบกท่านาแล้ง ศูนย์กลางโลจิสติกส์ชั้นนำของ สปป.ลาว เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าให้รวดเร็ว ถูกลง และง่ายขึ้น และช่วยส่งเสริมสร้างการค้าระหว่างจีน-สปป.ลาว และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะผู้แทนจากเมืองคุนหมิง นำโดยนายจ้าว ป๋อ รองนายกเทศมนตรีเมืองคุนหมิง ได้เดินทางเยี่ยมชมท่าบกท่านาแล้ง ในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่ทางรถไฟลาว-จีน และลาว-ไทย บรรจบกัน โดยท่าบกแห่งนี้ ทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการด้านพิธีการศุลกากรแบบเบ็ดเสร็จ (Single Window) สำหรับการขนส่งทางราง มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับจีนและภูมิภาคอื่น ๆ และระหว่างการเยี่ยมชม ผู้ประกอบการลาวและเจ้าหน้าที่จีนได้หารือแนวทางปฏิบัติ เพื่อลดต้นทุนขนส่ง เพิ่มความรวดเร็วในการส่งมอบ และใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครือข่ายรถไฟที่กำลังขยายตัว
และการหารือครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่เมืองคุนหมิงมีแผนจะก่อสร้างท่าบกแห่งใหม่ที่เมืองโมฮาน ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่เชื่อมต่อกับ สปป.ลาวโดยตรง

ทั้งนี้ ท่าบกที่โมฮานเมื่อเปิดใช้งาน จะช่วยกระตุ้นการค้าผ่าน สปป.ลาว ให้คึกคักยิ่งขึ้น ส่งผลให้ สปป.ลาวมีบทบาทสำคัญในฐานะประตูการค้าระหว่างจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยฝ่ายคุนหมิงเสนอให้พิจารณาลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมโลจิสติกส์บางรายการสำหรับการขนส่งขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยนายเวียงคอน สิทธิไช รองประธานบริษัท เวียงจันทน์ โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการท่าบกท่านาแล้งได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว พร้อมระบุว่าบริษัทพร้อมจะพิจารณามาตรการส่งเสริมการขนส่งปริมาณมาก สอดคล้องกับนโยบายของ สปป.ลาว ที่มุ่งส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางรถไฟ และเห็นควรจะตั้งคณะทำงานร่วม เพื่อศึกษาว่าอุปสรรคใดสามารถขจัดออกไปได้ เพื่อให้กระบวนการขนส่งคล่องตัวขึ้นและลดต้นทุนลงมา

“ความพยายามครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่จีนและประเทศในภูมิภาคต่างเร่งเสริมความร่วมมือทางการค้า โดยรถไฟลาว-จีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าภูมิภาค โดยมีการขนส่งสินค้าทางรถไฟเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเส้นทางรถไฟที่เชื่อมเวียงจันทน์-คุนหมิงสายนี้ ได้ขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออกกว่า 14 ล้านตัน มูลค่ากว่า 60,000 ล้านหยวน (ประมาณ 8.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในเดือน ธ.ค.2021 และในช่วง 7 เดือนของปี 2568 ปริมาณการขนส่งสินค้าข้ามแดนของรถไฟสายนี้มีมากกว่า 3.43 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6% คิดเป็นมูลค่ากว่า 15,400 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 41% ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดทางรถไฟนี้เชื่อมโยง 19 ประเทศ รวมถึง สปป.ลาว ไทย และสิงคโปร์ โดยมีประเภทสินค้าเพิ่มขึ้นจากกว่า 500 รายการเป็นมากกว่า 3,600 รายการ แสดงถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเส้นทางการค้านี้ ซึ่งผู้ประกอบการไทย ควรจะศึกษาและหาทางใช้ประโยชน์จากเส้นทางดังกล่าวในการส่งออกสินค้า” นางสาวสุนันทากล่าว

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top