'AI และไลฟ์สด' มาแรงในปี68 องค์กร–คนทำงานต้องเร่งปรับตัว

'AI และไลฟ์สด' มาแรงในปี68 องค์กร–คนทำงานต้องเร่งปรับตัว

วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย www.jobthai.com  เปิดเผยว่าจากข้อมูลของ JobThai พบว่า 5 อุตสาหกรรมหลัก ที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุดในปีนี้ ได้แก่1.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (168,556 อัตรา) 2.ธุรกิจค้าปลีก (148,706 อัตรา) 3.ธุรกิจยานยนต์ (118,150 อัตรา) 4.ธุรกิจบริการ (116,222 อัตรา) 5.ธุรกิจก่อสร้าง (96,980 อัตรา)  ขณะเดียวกันธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นดาวรุ่งของตลาดแรงงาน โดยมีตำแหน่งงานเปิดรับกว่า 92,138 อัตรา เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน สะท้อนบทบาทของไทยในฐานะฐานการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำคัญของโลก แม้จะเผชิญแรงกดดันจากนโยบายภาษีการค้าระหว่างประเทศ

ในมิติของทักษะการทำงานพบว่าองค์กรต้องการคนทำงานที่มีทักษะความรู้ด้าน AI และความสามารถในการใช้เครื่องมือ AI สูงขึ้น โดยเฉพาะสายงานดังนี้ 1. งานคอมพิวเตอร์/ไอที ได้แก่ ChatGPT, Machine Learning, TensorFlow, PyTorch, OpenCV, Natural Language Processing (NLP), Large Language Models (LLM) 2. งานการตลาด ได้แก่ ChatGPT, Gemini, Claude, Midjourney  3. งานออกแบบ/กราฟิก ได้แก่ ChatGPT, Gemini, Midjourney 4. งานวิศวกรรม ได้แก่ Computer Vision, ChatGPT, Machine Learning, Deep Learning 5. งานทรัพยากรบุคคล ได้แก่ ChatGPT, Gemini


“ไลฟ์สด / TikTok” เป็นคีย์เวิร์ดที่มาแรงติดอันดับคำค้นยอดนิยมสะท้อนเทรนด์ธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการบุคลากรด้านคอนเทนต์ไลฟ์สดและสตรีมเมอร์เชิงพาณิชย์มากขึ้น ส่วนคำค้นหายอดนิยมจากฝั่งผู้สมัครกลับสะท้อนอีกมุมหนึ่งของตลาดแรงงานคือ “หยุดเสาร์–อาทิตย์ / นักศึกษาจบใหม่ / ไม่มีประสบการณ์ / ฝึกงาน”

JobThai ยังได้จัดทำแบบสำรวจ สำรวจ "การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้งานภายในองค์กรและการทำงาน" จากกลุ่มตัวอย่างคนทำงานกว่า 2,600 คน และ HR กว่า 600 องค์กรทั่วประเทศ พบว่า49.42% ขององค์กรไทย ได้นำ AI เข้ามาใช้ในงานบางส่วนแล้ว ,63.93% ของคนทำงาน เคยใช้ AI เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะงานค้นคว้า เขียนสรุปเนื้อหา และสร้างคอนเทนต์,Gen Z เป็นกลุ่มที่ใช้ AI มากถึง 67.5% รองลงมาคือ Gen Y (64.16%) และ Gen X (55.11%)

นอกจากนี้ 64.89% ขององค์กร มองว่า AI ควรถูกใช้เป็น“ผู้ช่วยเสริมประสิทธิภาพ” มากกว่าจะมา “แทนคนทำงาน” มีเพียงส่วนน้อยที่มองว่าAI จะเข้ามาแทนตำแหน่งงานซ้ำซากหรืองานที่ใช้ทักษะต่ำ

นางสาวแสงเดือนกล่าวสรุปว่า เทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของการทำงานในทางที่ดีและท้าทาย รวมถึงในอนาคตเทคโนโลยีต่างๆจะมีบทบาทเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญคือคนทำงานต้องเรียนรู้และปรับตัว ขณะที่ภาคธุรกิจก็ต้องปรับแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการของพนักงานรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการส่งเสริมการทำงานแบบ Hybrid Work, การพัฒนาทักษะการใช้ AI เชิงลึก, การลงทุนในเทคโนโลยี การปรับระบบสวัสดิการให้เหมาะสม เพื่อรักษาและจูงใจบุคลากรที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรระยะยาว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top