พาณิชย์ กำชับร้านค้าคนละครึ่งพลัสแสดงราคาสุทธิให้ชัด ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา

พาณิชย์ กำชับร้านค้าคนละครึ่งพลัสแสดงราคาสุทธิให้ชัด ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา

วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 10.34 น.

กรมการค้าภายใน (DIT) กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้นโยบายของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้ากำกับดูแลร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” อย่างเข้มงวด กำชับให้ราคาจำหน่ายจริงตรงกับราคาที่แสดง ห้ามบวกค่าใช้จ่ายอย่างอื่นภายหลัง และต้องจำหน่ายสินค้าในราคาเดียวกันทั้งกรณีชำระเงินสดและใช้สิทธิ์ผ่านโครงการ หากฝ่าฝืน จะถูกดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และหากพบกรณีมีพฤติกรรมฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประชุมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำร้านค้าทุกราย โดยเน้นย้ำว่าร้านค้าต้องติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสุดท้ายที่รวมภาษีไว้แล้ว ซึ่งหากร้านอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาสินค้าทุกรายการต้องแสดงราคาจำหน่ายที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ไว้แล้ว โดยหากร้านค้าที่เป็นร้านอาหาร จะต้องมีการแสดงราคาอาหารและหากมีรายการค่าใช้จ่ายอื่นต้องแสดงไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบก่อนซื้อสินค้าหรือเข้ารับบริการ และกรณีร้านค้าที่เข้าโครงการคนละครึ่งพลัส ร้านค้าต้องจำหน่ายสินค้าในราคาที่เท่ากันทั้งผู้ใช้สิทธิ์คนละครึ่งและผู้ชำระเงินสด เพื่อสร้างความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคทุกกลุ่ม


โดยระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2568 กรมการค้าภายในได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 112 เรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร การไม่ติดป้ายราคา การคิดราคาสินค้าเพิ่มเมื่อใช้สิทธิ์คนละครึ่ง และการแสดงราคาจำหน่ายปลีกไม่ตรงกับราคาที่จำหน่าย ขณะที่กรณีร้องเรียนเรียกเก็บ VAT เพิ่มเติมจากราคาที่ติดป้ายแสดง แต่ถือเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายเอาเปรียบประชาชนและต้องถูกดำเนินคดีอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าที่ถูกร้องเรียนในพื้นที่ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่สายตรวจได้มีการล่อซื้อสินค้าจากร้านค้า และพบพฤติกรรมการจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงขึ้นเมื่อจะใช้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งพลัส และยังมีการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 68 พ.ศ. 2568 ข้อ 3 และข้อ 11 เข้าข่ายผิดตามมาตรา 28 และมีโทษตามมาตรา 40 ของพระราชบัญญัติฯ พร้อมปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท

ส่วนในจังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบขยายผลจากการร้องเรียน พบว่าร้านค้ายอมรับว่ามีการคิดราคาจำหน่ายสินค้าโดยบวกภาษีมูลค่าเพิ่มจากประชาชนอีก 7% เพิ่มจากราคาป้ายแสดงราคา โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแจ้งข้อหาจำหน่ายสินค้าไม่ตรงกับป้ายราคาที่แสดง และปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท พร้อมชี้แจงแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ซึ่งร้านค้าได้รับว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง

นอกจากนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่นได้ตรวจสอบร้านค้าธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นแห่งหนึ่งในตำบลแดงใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พบว่ามีการรับแลกสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด ทั้งที่ร้านปิดกิจการมานานกว่า 3 เดือน ซึ่งเข้าข่ายผิดเงื่อนไขโครงการ เจ้าหน้าที่ได้เพิกถอนสิทธิ์เข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้า และแจ้งกรมบัญชีกลางระงับการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ทันที เพื่อป้องกันการนำสิทธิ์ของประชาชนไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง“

นอกจากนี้ ในส่วนของร้านค้าที่เป็น ร้านค้าธงฟ้าทุกแห่ง ต้องปฏิบัติตาม กฎหมายของกรมการค้าภายในและ “กฎเหล็กร้านธงฟ้า” อย่างเคร่งครัดด้วย ได้แก่ ห้ามแลกสิทธิสวัสดิการเป็นเงินสด ห้ามบังคับซื้อสินค้า ห้ามขายเกินราคา หรือฉวยโอกาสขึ้นราคา ห้ามจำหน่ายสุรา บุหรี่ เบียร์ และห้ามปฏิเสธการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ หากฝ่าฝืนจะถูกเพิกถอนสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทันที

”กรมการค้าภายในยังคงติดตาม ตรวจสอบ และให้ความรู้แก่ร้านค้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องและป้องกันปัญหาความเข้าใจกฎหมายคลาดเคลื่อน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นร้านค้าฝ่าฝืน ไม่ติดป้ายแสดงราคาจำหน่าย หรือคิดราคาไม่ตรงป้าย หรือฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันรักษาความเป็นธรรมทางการค้าและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนอย่างทั่วถึง“ นายวิทยากร กล่าว

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top